21 สิงหาคม 2560
ตอนที่ 377 การออกเดินทาง
คำกล่าวของหลี่ฉีเย่ทำให้พระชราเผิงหน้าเศร้า จากนั้นหลี่ฉีเย่ก็มองเขาก่อนจะเอ่ยต่อ " มันดูเหมือนว่าเจ้าจะแน่วแน่ แต่หัวใจของเจ้ากลับไม่มั่นคง หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เมื่อใดกันที่เจ้าจะบ่มเพาะกายานิรันดร์สำเร็จ ? "
ใบหน้าของพระชราเผิงปรากฏรอยยิ้มข่มขื่นก่อนจะเอ่ย " ฮี่ฮี่ฮี่ มันเป็นเพียงแค่ข้าต้องการออกข้างนอกบ้าง การบ่มเพาะในแต่ละวันนั้นน่าเบื่อยิ่ง การสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างอาจจะทำให้ข้าบ่มเพาะได้ดีขึ้น "
" หากเป็นเช่นนั้น เจ้าก็ควรลองเดินทางไปยังดินแดนตอนกลาง " หลี่ฉีเย่กลายเป็นจริงจังและเอ่ย " มันมีความลับจำนานมากอยู่ที่นั้น ข้าสามารถบอกสถานที่บางแห่งได้ จากนั้นเจ้าก็ลองใช้ความสามารถที่มีค้นหามันดู และหากเจ้าไปเจ้าสามารถไปพักที่นิกายกำยานโบราณในฐานะแขกของผู้อาวุโสได้เป็นเวลาสิบปี มันก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่นัก "
" อะฮ่า เจ้าต้องการลากข้าไปยังบ่อแห่งเปลวเพลิง ! " พระชราเผิงไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้นก่อนเอ่ย " นี้อาจจะเป็นการเดินทางที่ลำบาก..." พระชราเผิงนั้นมีไหวพริบที่ฉลาดอย่างมาก
หลี่ฉีเย่เหลือบมองเขาก่อนจะยิ้มและเอ่ยอย่างสบายๆ " หากเจ้าไม่ต้องการจะไปเช่นนั้นข้าจะไม่บังคับเจ้า ทว่าข้าคิดว่ามันมีซากปรักหักพักจากยุคตำนานที่ยังไม่มีใครค้นพบเป็นเวลานานอยู่ ปลาคาร์พศักดิ์สิทธิ์ในทะเลสาปอาจจะกลายเป็นเทพ...มันยังมีหุบเขาปลากระพง...นี้อาจจะเป็นสิ่งที่อร่อยที่สุดในโลก เป็นเพียงสิ่งที่มีเพียงที่ดินแดนแห่งเหล่าภูติ..."
หลี่ฉีเย่นั้นพยักหน้าให้กับทุกคำพูดของเขาราวกับพยามจินตนาการถึงอาหารที่อร่อยอย่างมาก
" หุบเขาปลากระพง..." หลังจากได้ยินคำเหล่านี้พระชราเผิงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายของเขา ก่อนจะเอ่ยถาม " ซากปรักหักพังนี้อยู่ที่ใดกัน ? "
" โอ้ว ?" หลี่ฉีเย่เหลือบมองพระชราก่อนจะเอ่ย " สถานที่ที่พิเศษอย่างมาก...ข้าบอกได้เพียงแค่ผู้อาวุโสในนิกายของข้ารู้เท่านั้น ข้าจะบอกคนนอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไร ? "
" ฮี่ฮี่ ข้าจะไปปรึกษากับน้องชายเสียหน่อย หากพวกเขาอนุญาติ ข้าจะไปยังดินแดนตอนกลาง ! " พระชราเผิงกล่าวพร้อมกับถูมือของเขาไปมาอย่างกระหาย
หลี่ฉีเย่หัวเราะและบางสถานที่แก่พระชราไปหลายแห่ง หลังจากฟังสถานที่เหล่านั้นพระชราเผิงก็กลืนน้ำหลายอีกหลายครั้งราวกับเห็นอาหารรสเริศอยู่ตรงหน้า เขาทันใดนั้นก็อุทานออกมา " ข้าจะไปบอกกับน้องชายข้าให้เขาอนุญาติ ! "
หลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะอดยิ้มขณะมองพระชราเผิงเร่งรีบจากไป หากนิกายกำยานโบราณมีผู้เชียวชาญเช่นพระชราเผิงไปเป็นแขก เช่นนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นทรงพลังมากยิ่งขึ้น !
ก่อนจะจากไปหลี่ฉีเย่ไปพบกับซือเสี่ยวเตี๋ยก่อนจะเอ่ย " กลับไปยังประตูราชสีห์คำราม หากเจ้าต้องการอยู่ที่สำนักเช่นนั้นก็อยู่เพียงหนึ่งหรือสองปีก็พอ อยู่นานเกินไปนั้นจะไมเ่กิดประโยชน์อะไร "
ซือเสี่ยวเตี๋ยนั้นมองไปยังเด็กหนุ่มเบื้่องหน้าพร้อมด้วยอารมณ์ที่ยากจะบรรพยาย นางนั้นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คำเหล่านั้นล้วนไม่กล้าเอ่ย สุดท้ายนางก็ทำหน้าไม่มีความสุข
" เด็กโง่ " หลี่ฉีเย่ลูบหัวนางก่อนจะเอ่ย " ข้าแน่นอนว่าวันหนึ่งจะกลับมายังดินแดนร้อยเมือง แน่นอนว่านิกายกำยานโบราณยินดีตอนรับเจ้าเสมอ "
สุดท้ายนางก็ยิ้มออกมาได้หลังจากได้ยินเรื่องนี้ แต่นางก็ยังไม่เอ่ยอะไรในท้ายที่สุด
วันของการออกเดินทางสุดท้ายก็มาถึงและหลี่ฉีเย่เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เขาทันใดนั้นก็ไปพบกับปราณเทพพร้อมกับกลุ่มของหลี่ซ่วงเหยีนและสาวๆคนอื่นที่ไปส่งเขา พระชราเผิงก็มาด้วยเช่นกัน
ช่วงเวลาที่เขาเดินผ่านยอดเขาแห่งหนึ่ง หลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะมองออกไปยังสถานที่ห่างไกล กากระทำนี้ทำให้พระชราเผิงกระซิบ " เจ้าต้องการจะไปลาท่านบรรพบุรุษหรือไม่ ? "
หลี่ฉีเย่ส่ายหัวขณะมองไปยังที่ห่างไกล " ไม่จำเป็น พวกเราจะได้พบกันอีก ! " หลังจากกล่าวเสร็จ เขาก็ถอนหายใจก่อนจะจากไป !
ภายในส่วนลึกของสำนักเต๋าสวรรค์ มันมีต้นสนโบราณที่ตั้งตระหง่าราวกับมังกรปรากฏ นี้เป็นครั้งแรกที่หลี่ซ่วงเหยียนและคนอื่นๆได้พบกับปราณเทพ หลังจากพบว่าปราณเทพนั้นเป็นเพียงต้นสน พวกนางก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ ตัวตนอมตะในตำนานนั้นเป็นต้นสน นี้จะให้ผู้คนเชื่อได้อย่างไร ?
" เจ้าพร้อมหรือยัง ? " เสียงที่เก่าแก่ของปราณเทพปรากฏ
หลี่ฉีเย่สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเอ่ย " ข้าพร้อมแล้ว พาข้าไปได้เลย ! "
" ข้าต้องการจะตรวจสอบกำแพงมิติ ข้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถพาเจ้าไปส่งยังตำแหน่งที่เจ้าต้องการได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างการเคลื่อนย้ายครั้งนี้ ข้าสามารถพาเจ้าไปยังโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ได้แน่นอน " ปราณเทพเอ่ย
หลี่ฉีเย่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม " นั้นไม่ใช่ปัญหา แม้ว่าจะเป็นตำแหน่งอื่น เข้ามีวิธีการที่จะเคลื่อนไหวเอง "
" เช่นนั้นก็เริ่ม ! " ปราณเทพนั้นไม่เอ่ยสื่งใดก่อนจะใช้กิ่งของเขาพุ่งไปด้านหน้า กิ่งนี้มีความหน้าเท่ากับนิ้วหัวแม่มือ แต่เปลือกของมันแข็งราวกับเกล็ดมังกร มันดูเหมือนว่านี้จะเป็นหอกของเทพ หลี่ฉีเย่นั้นโบกมือลากลุ่มของหลี่ซ่วงเหยียน จากนั้นเขาก็กระโดดไปยังด้านบนนของกิ่งนั้นและเอ่ยอย่างจริงจัง " พาข้าไปที่นั้น ! "
" ไป !! " ปราณเทพคำรามเบาๆ ก่อนที่กิ่งที่หลี่ฉีเย่อยู่จะพุ่งทะยานทะลุขอบฟ้าไป กิ่งนี้มาจากส่วนลึกที่สุดในสำนักก่อนจะพุ่งขึ้นชั้นฟ้า
กิ่งนี้ใช้ความเร็วที่น่าเหลือเชื่อนำหลี่ฉีเย่คนที่กำลังอยู่ด้านบน ทะลุชั้นฟ้าพุ่งไปด้านหน้าผ่านห่วงมิติและเวลา ความเร็วของมันเทียบได้กับการข้าวโดยประตูเต๋า
ต่อหน้ากิ่งนี้ของปราณเทพ ทุกอย่างล้วนกลายเป็นความว่างเปล่าและดวงดาราค่อยๆจางหายไปตามเส้นทางของมัน
" กลิ่นอายของโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์นั้นมีบางอย่างที่เป็นลางร้าย บางทีปีศาจอาจจะกำลังเกิดขึ้นมาในยุคนี้ " ระหว่างเดินทาง เสียงของปราณเทพดังข้างหูหลี่ฉีเย่
หลี่ฉีเย่หัวเราะและเอ่ย " เกี่ยวกับกลิ่นอายที่เป็นลางร้าย พวกมันปรากฏทุกที่ทั้งเก้าโลก สิ่งนี้นั้นมีมาตั้งแต่อดีต แม้แต่โลกของจักรพรรดิมนุษย์ก็ยังมีสถานที่เช่นนั้น แต่มันเป็นเพียดินแดนเล็กๆ "
" ถูกต้อง " ปราณเทพนั้นเห็นด้วยกับความคิดนี้
" สำหรับปีศาจที่อยู่ในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์...ข้าหวังจริงๆว่าสิ่งนั้นมันจะคลานออกมาจากที่ซ่อน ฮ่า สิ่งนั้นซ่อนตัวมาเป็นเวลานานและยังคงตามหาบางสิ่งที่ลึกลับภายในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่มันคลานออกมา พวกเรามีโอกาสที่ะจะได้รับคำตอบกับคำถามทั้งหมด " หลี่ฉีเย่กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
ปราณเทพนั้นไม่ได้ตอบสนองกับคำกล่าวของหลี่ฉีเย่ ปัญหานี้นั้นเกี่ยวกับความลับที่ยิ่งใหญ่ของโลก มันกระทั้งเกี่ยวกับคำทำลายจากยุคโบราณ !
ภายในพริบตา ปราณเทพก็พาหลี่ฉีเย่มาถึงทางเข้ามิติ เหล่าคนที่ไม่เคยเห็นฉากนี้มาก่อนล้วนตกตะลึง
ภายในส่วนลึกของมิติไร้สิ้นสุดนี้ สามารถมองเห็นเมืองโบราณตั้งตระหง่าอยู่ ทว่าไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตราวกับมันถูกทิ้งล้างมาเป็นเวลานาน
" อ่า บางสิ่งนั้นสามารถเป็นที่รู้จักของโลกอื่น ไม่นานก่อนหน้านี้ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง สถานที่ที่ทุกมรดกที่สำคัญจะถูกรวมไว้ด้วยกัน " หลี่ฉีเย่นั้นกล่าวด้วยอารมณ์หลังจากเห็นเมืองโบราณที่ถูกทิ้ง
" ย้อนกลับไป ช่วงเวลาที่ราชามังกรทมิฬนั้นต่อสู้กับจักรพรรดิอมตะต้ากง พวกเขานั้นไม่กล้าจะทำลายทั้งเก้าโลกจึงเข้าไปในมิติ การต่อสู้ขงอยุคตำนานทว่าพวกเขาก็ยังทำลายทุกสิ่ง " ปราณเทพเอ่ยต่อ " ราชามังกรทมิฬนั้นฉีกเจตจำนงแห่งสวรรค์และทำลายเส้นทางเชื่อมต่อเก้าโลก ดังนั้นกำแพงมิติจึงถูกผนึก จากนั้นเป็นต้นมาเก้าโลกก็ถูกแยกออกจากกันและผู้ฝึกตนไม่สามารถเดินทางไปโลกอื่นได้ แม้แต่คนที่สามารถเปิดรายการศักดิ์สิทธิ์พวกเขาก็ไม่สามารถเดินทางได้ "
สามหมื่นปีก่อนทั้งเก้าโลกนั้นเชื่อมต่อกัน ตราบใดที่พวกเขานั้นมีผลึกเพียงพอพวกเขาสามารถใช้มันเป็นประตูดวงดาว แต่ละโลกนั้นจะมีประตูดวงดาวที่เชื่อมต่อกันไว้และเปิดเมื่อจ่ายอย่างเหมาะสม
ทว่าน่าเสียดาย ที่การต่อสู้ของสองตัวตนที่ยิ่งใหญ่ได้ทำลายเส้นทางเชื่อมทั้งเก้าโลก พวกมันถูกตัดขาดกันอย่างสิ้นเชิง
ความจริง ภายในสามหมื่นปีที่ผ่านมา คนจำนวนมากพยามเปิดเส้นทาางไปยังโลกอื่น ทว่าน่าเสียดายตั้งแต่กำแพงมิติถูกผนึก ทุกอย่างล้วนเป็นไปไม่ได้
แม้ว่าจะเปิดช่องทางต่างๆได้ เส้นทางที่ใช้ก็จะไม่มีความเสถียร แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมก็ยังไม่กล้าจะใช้ช่องทางและเส้นทางที่พังทลายเดินทางไปโลกอื่น พวกเขาอาจจะตายได้โดยไม่ต้องเอ่ยถาม
เมื่อปราณเทพนั้นพาหลี่ฉีเย่เขาไปยังห่วงมิติ พวกเขาตระหนกได้ว่าเห็นกิ่งต้นสนแทงทะลุชั้นฟ้าขึ้นไป
" นั้นปราณเทพกำลังจะทำอะไร ? " หลังจากปราณเทพกลายเป็นตัวตนที่พลิกคว่ำสวรรค์หลังจากการต่อสู้ ทุกช่วงเวลาที่สำนักเคลื่อนไหวมักจะได้รับความสนใจอย่างมาก ดังนั้นการเคลื่อนไหวของปราณเทพในครั้งนี้ทำให้เหล่าตนตายในดินแดนร้อยเมืองตื่นตระหนก ในช่วงเวลาสั้นๆ หลายคนพยามมองไปยังเส้นขอบฟ้าเพื่อหาคำตอบ
มีบรรพชนที่สายตาดีบางคนมองเห็นกิ่งของปราณเทพแบกหลี่ฉีเย่เข้าไปยังมิติ พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นประหลาดใจ จากนั้นเมื่อพวกเขาสั่งเกตถึงปลายพวกเขาเริ่มพึมพำ " นั้นเป็นสถานที่ที่ประตูดวงดาวตั้งอยู่ ! "
บรรพชนและตัวตนในตำนานจำนวนมากสัมผัสได้ถึงฉากนี้ ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เส้นทางเก้าโลกถูกทำลาย ทุกเชื้อสายในโลกล้วนไม่สนใจประตูดวงดาว ดังนั้นมันจึงกลายเป็นเมืองที่ว่างเปล่าตลอดสามหมื่นปีที่ผ่านมา
คนน้อยมากที่เดินทางไปยังประตูดวงดาวในปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่การเดินทางข้ามมิติจำเป็นต้องมีสมบัติบินที่ทรงอำนาจและมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกัน
ในยุคปัจจุบัน ไม่มีใครสนใจที่จะไปยังประตูดวงดาว ไม่มีปรมจารย์แม้แต่คนเดียวที่เสียเวลาทำสิ่งนั้น
วันนี้ปราณเทพจู่ๆก็แบกหลี่ฉีเย่ไปยังประตูดวงดาวนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึง บรรพชนจากนิกายทรงอำนาจสูดลมหายใจลึกและเอ่ย " หรือหลี่ฉีเย่พยามจะเดินทางไปยังโลกอื่น !? "
หลายคนสั่นสะท้านหลังจากคิดถึงตรงนี้ หลี่ฉีเย่ในโลกของจักรพรรดิมนุษย์นั้นเขาจะสามารถทำสิ่งใดก้ได้ที่เขาต้องการ ทำไมเขาถึงได้รีบไปยังโลกอื่นเช่นนี้ ?
" ช่างจองหองอย่างยิ่ง ! เขาต้องการจะไปยังโลกอื่นในช่วงเวลาปัจจุบัน เขาจะใช้กำลังในการเปิดกำแพงมิติ มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึงผลลัพธ์หากเขาล้มเหลว " แม้แต่ผู้นำนิกายบางคนก็ยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วหัวใจเมื่อคิดถึงมัน...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น