3 กันยายน 2560
ตอนที่ 489 สังหารศัตรูนับหมื่น
จากเริ่มต้นจนถึงตอนนี้ หลี่ฉีเย่ไม่ได้ใช้อาวุธทรงพลังใดๆ กระทั้งดาบและกระบีของเขาก็ยังเป็นเหล็กธรรมดา ส่วนใหญ่เวลาของเขาถูกใช้ไปกับการฆ่าศัตรูด้วยมือเปล่า
เขาทำลายศัตรูนับไม่ถ้วนด้วยมือเปล่าเพียงลำพัง และศัตรูเหล่านี้ไม่ใช่พวกไร้ชื่อเสียง พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงและคนรุ่นก่อน รวมถึงองค์รักษ์เทพสวรรค์นับร้อยที่เป็นผู้ปกครองของเหล่าระดับต่ำ !
การต่อสู้นี้เป็นระดับที่น่ากลัวขนาดใด ? และนี้หลี่ฉีเย่ก็ยังสร้างทะเลโลหิตและใช้กำลังจนผีและปีศาจก็ยังละอาย หากนี้เป็นเพียงการต่อสู้ที่เขาไม่ใช่อาวุธ เช่นนั้นมันจะดุร้ายขนาดไหนหากเขามีอาวุธท้าทายสวรรค์ ? ไม่ใช่ว่าเขาจะสังหารทุกได้ในพริบตาเลยรึ ?
หลังจากเห็นการต่อสู้ที่ไร้อาวุธของหลี่ฉีเย่ ราชันผีจากรุ่นก่อนตระหนักได้ถึงบางสิ่งและพึมพำ " สำหรับเขา มันมีชีวิตหรือความตายในการต่อสู้นี้ เขาเพียงแต่กลั่นทักษะของเขาด้วยเลือด เขาต้องการะจผลักดันทักษะของเขาไปยังจุดสูงสุด อะไรคือสิ่งที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าการขัดเกล่าทักษะระหว่างต่อสู้ ? อะไรคือสิ่งที่คำคัญกว่ากาารที่ทักษะใหม่หรือกำปั้นถูกยกระดับขึ้นระหว่างสู้จริง ? "
ห่างไกลออกไป หลี่ฉีเย่ใช้ทักษะจำนวนมาก ตัวอย่างเช่นสามเพลงดาบ , หกปักษาสยายปีก , แปดกระบี่สะบั้นสวรรค์...ทุกทักษะถูกพลักดันสู่จุดสูงสุดหลังจากถูกใช้อย่างต่อเนื่อง หลังจากฆ่าศัตรูเหล่านี้ ทุกวินาทีจะเปลี่ยนเขาให้เข้าสู่ระดับใหม่
" เจ้าเด็กนี้มันโหดร้ายเกินไป " เห็นหลี่ฉีเย่อาละวาดโดยไม่กระพริบตาแม้ว่าจะบาดเจ็บ เหล่าคนตายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดพึมพำด้วยหน้าซีดจาง
เหล่าคนตายเหล่านี้ไม่ต้องการจะแสดงใบหน้าของพวกเขามากขึ้น เมื่อรู้ว่าหลี่ฉีเย่ต้องการทำอะไร พวกเขาไม่ต้องการเป็นหินลองเท้าของเจ้าเด็กนี้ หากพวกเขาออกไปชีวิตของพวกเขาจะจบลงภายใต้น้ำมือของเจ้าเด็กมนุษย์ ดังนั้นพวกเขายังคงซ่อนตัว รวมกับโอกาสฆ่าหลี่ฉีเย่นั้นยังมีอีกมากหากเขายังไม่หนีออกไปจากโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์
สำหรับเหล่าผู้เยาว์ ผู้เยาว์เผ่าผีล้วนหน้าซีดขาวพร้อมหัวใจที่สั่นสะท้าน พวกเขาไม่แสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิใดๆได้ สำหรับผู้เยาว์ที่สามารถฆ่าศัตรูนับหมื่นและสร้างเป็นภูเขาศพและทะเลโลหิตเบื้องหน้าได้
ลูกหลานของเชื้อสายจักพรรรดิอย่างยอดเซียนผีแมลงและยอดเซียนเล็บเจ็บเสี้ยวนั้นใบหน้ากลายเป็นหน้าเกลียดขณะที่ดูการต่อสู้นี้ พวกเขานั้นเหลือบมองหน้ากันและรู้ได้ทันทีหากไม่มีสมบัติจักรพรรดิระดับชีวิตหรือระดับแท้จริงพวกเขาล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฉีเย่ เจ้ามนุษย์สารเลวนี้น่ากลัวเกินไป
เทียนหุยหลี่นั้นปรากฏตัวที่เส้นขอบฟ้าและมีการแสดงออกที่น่าเกลียด สัญชาตญาณของเขาบอกว่าเจ้าเด็กน้อยมนุษย์นี้เป็นภัยคุกคาม เทียนหุยหลี่นั้นเป็นระดับสูงของผู้เยาว์และแม้แต่มณีองค์รักษ์และยอดองค์รักษ์จากรุ่นก่อนก็ยังต้องระวังเขา
แต่ตอนนี้ เทียนหุยหลี่หนึ่งในสามวีรบุรุษ ไม่สามารถปล่อยผ่านหลี่ฉีเย่ได้และหันมาพิจรณษเขาเป็นศัตรูที่น่ากลัว
ในฝูงชน ไม่มีใครรู้จักหลี่ฉีเย่ดีไปกว่าหลานอวิ๋นจู นางนั้นถอนหายใจหลังจากยืนเป็นพยานในการสังหารของเขา นางรู้ว่าหลี่ฉีเย่นั้นมีอาวุธที่ท้าทายสวรรค์และไม่ได้อ่อนแอกว่าสมบัติจักรพรรดิ นางนั้นเข้าใจเขาและเชื่อมั่นว่าตัวเองจะยืนเป็นคนสุดท้ายหลังจากเห็นหลี่ฉีเย่ยังไม่ได้หยิบสมบัติใดๆออกมา จากนั้นก็เข้าใจได้ว่าเขามีความมั่นใจเช่นนั้นที่จะสังหารหมู่นิกายพันแม่น้ำหวน ไม่ว่าจะเป็นศัตรูที่ทรงพลังระดับใดสุดท้ายผลของการเป็นศัตรูกับเขาก็เหมือนกัน
กลุ่มของผู้อาวุโวชิและผู้เยาว์ทั้งหกถือโอกาสติดตามหลานอวิ๋นจูออกมาและมองจากระยะไกล การสังหารหมู่ของหลี่ฉีเย่ทำให้พวกเขาตกตะลึงและหม่นหมอง พวกเขาไม่คิดว่าหลี่ฉีเย่มีความสามารถท้าทายสวรรค์เช่นนี้ เขานั้นมีควาสมามารถในการฆ่าทุกคน !
" แม้แต่สามวีรบุรุษก็ยังไม่มีความแข็งแกร่งเช่นนี้ " ผู้อาวุโสชิพึมพำเบาๆ เขานั้นเป็นผู้อาวุโสในเผ่าเล็กๆที่มีความรู้จำกัด แต่เขาเข้าใจหลี่ฉีเย่ผ่านการสังหารหมู่ครั้งนี้
ฉิวหรงว่านเสวี่ยที่เฝ้าดูการต่อสู้นี้จากระยะไกลกลั้นลมหายใจด้วยความเจ็บปวดหลังจากเห็นบาดแผลของหลี่ฉีเย่ นางอดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับนายน้อยของนาง นางกำหมัดแน่นและภาวนาอยู่ในใจให้นายน้อยยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย !
" ปังงง ! " ในสนามรบเลือด เสียงระเบิดที่กึงก้องดังออกมา กระบี่ธรรมดาของหลี่ฉีเย่ไม่สามารถทนต่อการโจมตีของราชันภูเขาทมิฬที่มาพร้อมกับอาวุธบรรพชนเที่ยงธรรมได้ แม้แต่มีพลังงานในสายเลือดไร้สิ้นสุดลงไปยังดาบมันก็ยังแตกเป็นเสี่ยงๆ ช่วงเวลานี้กำปั้นของหลี่ฉีเย่ทำลายอกของราชันภูเขาทมิฬ พริบนาทีต่อมาราชันภูเขาทมิฬก็กลายเป็นละอองเลือด
นี้แน่นอนว่าทำไมหลายคนถุกแช่ด้วยความสยอง บางคนกระทั้งเริ่มที่จะถอย คนหลายพันคนถูกฆ่า และเหลือไว้อีกเพียงไม่กี่พัน กระทั้งราชันเทพสวรรค์ที่น่ากลัวอย่างราชันภูเขาทมิฬก็ยังตาย นี้ทำให้กำลังใจของพวกเขาดิ่งลง !
" ได้เวลาจบเรื่องนี้แล้ว " หลี่ฉีเย่คำรามพร้อมกับเลือดที่อาบตัวและดึงเอาเกาทัณฑ์สยบเก้าโลกออกมา
" วูบบ ! " ลูกศรคำว่า ' รูปแบบ ' ถูกยิงออกไป
" วิ้งง ! " ลูกศรคำว่า ' รูปแบบ ' ถูกยิงออกไปปักกับพื้น สร้างเป็นเขตแดน ภายในเขตแดนนั้นลูกศรไร้ความปราณีนับไม่ถ้วนตกลงมาจากชั้นฟ้าและพุ่งมายังปฐพี การร่วมกันอาวุธทำลายล้างจำนวนมากนี้สร้างเป็นฉากที่น่ากลัว
" อ้ากก ! " พวกเขาไม่มีทางหลบหนีเมื่อตกอยู่ภายในลูกแบบนี้ ลูกศรสวรรค์และนรกจำนวนนับไม่ถ้วนถูกยิงมายังพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นสมบัติที่ทรงอำนาจขนาดไหนพวกมันก็ไม่สามารถหยุดลูกศรที่เกรี้ยวกราดนี้ได้ ลูกศรเหล่านี้ปรากฏเป็นจำนวนมากทำให้ตัวของศัตรูกลายเป็นรังผึ้ง
" ฆ่า ! " ผู้เชียวชาญจากทิศทางอื่นเริ่มจะพุ่งไปข้างหน้า คนอีกหลายพันคนมาเพื่อฆ่าหลี่ฉีเย่
" วูบบ ! " หลี่ฉีเย่ยิงลูกศรคำว่า ' คุ้มกัน ' ออกไป มีมนขลังจำนวนมากพุ่งออกไปก่อนจะป้องกันการโจมตีจำนวนมากที่เข้ามา
เกาทัณฑ์สยบเก้าโลก - นี้เป็นเกาทัณฑ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ด้วยความแข็งแกร่งของหลี่ฉีเย่จะทำให้อำนาจของมันพุ่งทะยานมากยิ่งขึ้น !
" พิ้วว ! " ศรคำว่า ' กองทัพ ' ถูกยิงออกไป มันแบกความแข็งแกร่งของสวรรค์และปฐพีพร้อมกับเสียงกรีดร้อง การร่วมมือกันของผู้เชียวชาญนับพันนั้นกลายเป็นล้มเหลวก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นแอ่งเลือด ศรนี้ไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่งหรือวสมบัติของพวกเขา ลูกศรนี้รวมพลังของสวรรค์และปฐพีก่อนจะสร้างเป็นฝนเลือดทันที
หนึ่งลูกศรฆ่าผู้เชียวชาญนับพันนี้ทำให้ผู้รอดชีวิตเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หลี่ฉีเย่นั้นน่ากลัวอยู่แล้วยามปราศจากอาวุธ และเมื่อตอนนี้มีอาวุธอมตะอย่างเกาทัณฑ์สยบเก้าโลก เขาจะน่าหวาดกลัวและบดขยี้ศัตรูของเขาอย่างไร ?
ในเวลานี้ คนจำนวนมากตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่สามารถฆ่าหลี่ฉีเย่ได้ในเวลานี้ ดังนั้นเป้าหมายใหม่ของพวกเขาคือออกไปแบบมีชีวิต
ขณะที่เหล่าผู้รอดชีวิตตัดสินใจที่จะล่าถอย เจ้าหญิงฟินิกซ์ที่นั่งอยู่บนรถม้าออกคำสั่ง " เริ่มได้ ! "
ทันใดนั้น กองทัพขนาดใหญ่ที่คุ้มกันเจ้าหญิงฟินิกซ์ก็พุ่งเข้าไปในสนามรบ แต่ละคนนั้นถือเตาเผาเล็กๆ เมื่อเปิดเตามันพ่นเสียงสีดำออกมา ' ตุบ ' เตาเหล่านี้ได้ดูดเลือดและเนื้อทั้งหมดในสนามรบ
ศพนั้นมีขนาดเท่ากับภูเขาและทะเลเลือดนั้นมีขนาดใหญ่ แต่กองทัพที่ถือเตานี้สามารถที่จะดูดทุกอย่างได้
เห็นฉากนี้ หลายคนที่อยู่บนเส้นขอบฟ้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ผู้เชียวชาญในสนามรบตื่นตระหนกและตะโกน " วิ่งเร็ว นี้มันการเผาไหม้ประกายศักดิ์สิทธิ์ ! "
" ตูม ! " กระถางขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นหลังจากการระเบิด กระถางเลือดขนาดใหญ่นี้ให้กินทั่วทั้งสนามรบรวมถึงกองทัพของประเทศประกายศักดิ์สิทธิ์
" อ้ากกก ! " เสียงกรีดร้องที่น่าอนาถดังออกมา กระถางเลือดขนาดใหญ่นี้ดูดผู้เชียวชาญและกลั่นพวกเขาจนกลายเป็นหมอกเลือดและสร้างร่างกายของตน
" ตูม ! " ในเวลานี้กระถางโลหิตคำราม พร้อมกับหมอกสีแดงเข้มหมุนรอบมันและทำให้คนอื่นหนาวสั่น
" การเผาไหม้ประกายศักดิ์สิทธิ์ - นี้เป็นวิธีที่จะทำลายทั้งสองฝั่ง ทั้งศัตรูและผู้ใช้ มันจะสร้างความหายะโดยการเสียสละของเลือดและเนื้อของผู้ใช้ ! " ผู้เชียวชาญผีอุทาน
ในเวลานี้ กระถางโลหิตเหมือนจะสวยงามและแปลกประหลาดมากยิ่งขึ้น มันเป็นเหมือนปีศาจดูดเลือดที่ทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน
ตัวละครที่ยิ่งใหญ่ที่มองจากสถานที่ห่างไกล รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากเห็นฉากนี้
" ผู้เชียวชาญหลายพันคนในสนามรบจะต้องเสียสละแล้ว " พวกเขากระซิบกันเงียบๆ
" นี้เป็นทักษะต้องห้ามของประเทศประกายศักดิ์สิทธิ์ - การสละโลหิต " ผู้นำนิกายคนหนึ่งเอ่ย " เจ้าหญิงฟินิกซ์ประกายศักดิ์สิทธิ์ช่างโหดร้าย "
การเผาไหม้ประกายศักดิ์สิทธิ์เป็นทักษะที่น่ากลัวของประเทศประกายศักดิ์สิทธิ์ มันจะใช้เลือดของตัวเองหรือศัตรูเพื่อบูชายัญโลหิต
ในเวลานี้ กองทัพประกายศักดิ์สิทธิ์ได้เปลี่ยนเลือดของเขากลายเป็นกระถาง ด้วยผู้เชียวชาญนับพัน พวกเขาสามารถใช้การสละเลือดนี้ฆ่าหลี่ฉีเย่ได้ หากมันจำเป็น แม้แต่กองทัพพวกเขาก็อาจจะต้องเสียสละตัวเอง..
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น