23 สิงหาคม 2560
ตอนที่ 656 การแก้แค้นของตระกูลหวังฟู่
" เป็นพวกเขาที่มาที่นี่ ? " การแสดงออกของนายหญิงฉีเยียนกลายเป็นจริงจังและเอ่ยภามเพื่อยืนยันสถานการณ์
บรรพชนต้นสนรีบเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว " พวกเขายังคงไม่ได้เข้ามาในเมืองหลวงแต่อยู่ที่ชานเมือง บรรพชนขอองพวกเขาส่งข้อความาหาบรรพชนเหยี่ยวและต้องการให้ประเทศไผ่ยักษ์อธิบายเรื่องหวังฟู่เฮาหรือจะเลือกเผชิญหน้ากับพวกเขา "
มันกลายเป็นว่าหลังจากที่หวังฟู่เฮาถูกเป่าออกไปจากเมืองหลวง ตระกูลหวังฟู่ได้ใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเพื่อตามหาตัวเขา หวังฟู่เฮาถูกพบในสภาพที่ใกล้จะตาย แม้ว่าเขาจะยังรอดชีวิต แผลของเขาก็ยังทำให้เขาอยู่ใกล้กับหลุมศพอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงยังนอนอยู่ที่เตียง
บรรพชนจากตระกูลหวังฟู่ได้ออกมารักษาหวังฟู่เฮาอย่างรวดเร็ว หลังจากอาการของเขาเสถียร คนจากตระกูลหวังฟู่ก็กลับสู่ความสงบและเพ่งความสนใจของพวกเขามายังเรื่องนี้ นี้จะทำให้ตระกูลหวังฟู่กลืนความโกรธนี้ได้อย่างไร ? เพราะเรื่องนี้ บรรพชนถึงได้นำกลุ่มของผู้เชียวชาญมายังเมืองหลวงเพื่อต้องการคำอธิบาย
ใบหน้าของนายหญิงฉีเยียนกลายเป็นเย็นชาและเอ่ย " หากพวกเราไม่ตอบ พวกเขาคงจะสังหารผู้คนในเมืองของเรา "
ใบหน้าของบรรพชนต้นสนกลายเป็นซีดลงและเอ่ย " อาจจะเป็นเช่นนั้น มันดูเหมือนว่าตระกูลหวังฟู่จะไม่ยอมแพ้หากพวกเราไม่ให้คำอธิบายที่ดี หากพวกเขาโจมตี ข้าเกรงว่ากลุ่มของบรรพชนเหยี่ยวอาจจะไม่สามารถต้านทานได้ "
นายหญิงฉีเยียนหน้าเคร่งเครียด นางรู้อย่างชัดเจนว่ามีขุมอำนาจจำนวนมากในเขตนักปรุงยาที่จับตาประเทศของนางอยู่ ทว่าทุกขุมอำนาจล้วนอยู่ร่วมกันอย่างสงบ ทว่าด้วยช่วเวลาที่ดีเช่นนี้ ตระกูลหวังฟู่จะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร ?
นอกจากนี้หวังฟู่เฮานั้นปราถนาที่จะแต่งงานกับนาง ดังนั้นทางตระกูลต้องใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ มันเป็นการฆ่านักสองตัวด้วยหินก้อนเดียว !
" ฝ่าบาท พวกเราจะทำอย่างไร ? " บรรพชนต้นสนเอ่ยอย่างถาม
ด้วยสายตาที่ร้ายแรง นายหญิงฉีเยียนประกาศ " หากตระกูลหวังฟู่ตกการสร้างความลำบากให้กับพวกเรา เช่นนั้นพวกเราจะมอบความบันเทิงให้กับพวกเขา ประเทศไผ่ยักษ์ของพวกเราไม่ง่ายนักที่จะให้คนอื่นมารังแก ! "
" ข้าเพียงกังวลเกี่ยวกับเบื้องหลังของตระกูลหวังฟู่ อาณาจักรนักปรุงยา พวกเขานั้นมีความสัมพันธ์กันมาหลายยุค " บรรพชนต้นสนอดไม่ได้ที่จะกังวล
นายหญิงฉีเยียนเอ่ยอย่างเย็นชา " เมื่อทหารมาออกมา ให้ผู้บัญชาการจัดการพวกเขา เมื่อน้ำท่วมมาถึงให้แผ่นดินแบกมัน "
" พวกเราแน่นอนว่าจะไม่ยอมให้ตระกูลหวังฟู่มาหยามถึงหน้าประตูบ้านเรา ไปอัญเชิญบรรพชนของพวกเราให้กลับมามีชีวิต ข้าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง " แม้ว่านายหญิงฉีเยียนจะเป็นสตรี นางนั้นไม่ใช่คนอ่อนแอ ความจริงนางนั้นก็กระทั้งแข็งแกร่งอย่างมากในหลายๆด้าน
" ก็แค่เพียงตระกูลหวังฟู่ ไม่มีความจำเป็นต้องให้คนนอกเข้ามายุ่ง " ในเวลานี้ เสียงที่เกียจคร้านได้ดังขึ้น หลี่ฉีเย่เอ่ยช้าๆ " ไม่จำเป้นต้องให้บรรพชนของประเทศออกมา ปล่อยเรื่องทั้งหมดให้กับข้า เรื่องทั้งหมดเริ่มที่ข้าและข้าจะเป็นคนจบมันเอง "
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ บรรพชนต้นสนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังหลี่ฉีเย่ นายหญิงฉีเยียนเอ่ยอย่างจริงจัง " บรรพชนของตระกูลหวังฟู่เป็นบรรพชนเที่ยงธรรมที่มีชื่อเสียงในสามหมื่นปีที่ผ่านมา "
นางนั้นเพียงกังวลเกี่ยวกับหลี่ฉีเย่ แม้ว่าราชันเทพสวรรค์เช่นนางก็ต้องยังระวังอย่างมากกับบรรพชนระดับนี้ ความแข็งแกร่งของนางเพียงลำพังไม่เพียงพอจะสู้กับบรรพชนของตระกูลหวังฟู่ นี้เป็นเหตุผลที่นางต้องให้บรรพชนของประเทศกลับมามีชีวิต
แม้ว่านายหญิงจะประเมินหลี่ฉีเย่ไว้สูงมาก แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถเผชิญกับบรรพชนเที่ยงธรรมเพียงลำพังได้
ความจริง นับตั้งแต่เขามาที่นี่เขาไม่เคยลงมืออย่างจริงจังดังนั้นนางจึงไม่รู้ระดับการฝึกตนของเขา ทว่าในความคิดนางเขาไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าราชันเทพสวรรค์
และหากเขาไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าราชันเทพสวรรค์ เช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถต่อต้านบรรพชน เพราะแม้แต่ราชันเทพสวรรค์ก็ยังไม่มีเพียงจะต่อต้านบรรพชนเที่ยงธรรม
" ก็แค่เพียงบรรพชนเที่ยงธรรม ไม่ใช่จักรพรรดิอมตะ - ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ " หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างไม่แยแส " หากพวกมันต้องการมา เช่นนั้นก็ให้พวกมันมา พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้ลบพวกมันออกจากแผ่นดิน อย่าได้พวกมันแม้แต่ตัวเดียวหลบหนีออกไปได้ "
คำกล่าวอย่างสบายๆนี้ทำให้บรรพชนต้นสนและนายหญิงเงียบลง
เพียงแค่บรรพชนเที่ยงธรรม - นี้ช่างเป็นคำกล่าวที่หยิ่งยโสที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยได้ยิน ! แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมจากนิกายธรรมดาก็ยังเป็นบรรพชนเที่ยงธรรม นี้เป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง บางคนสามารถหยิบดวงดาวและทำลายดวงจันทร์บนท้องฟ้าได้ บางคนสามารถพลิกสวรรค์และปฐพี ! มันอาจจะกล่าวได้ว่าราชันเทพสวรรค์ไม่มีค่ายามอยู่ต่อหน้าบรรพชนเที่ยงธรรม
แต่ตอนนี้ สิ่งที่ออกมาจากปากของหลี่ฉีเย่คือ ' เพียงแค่ ' บรรพชนเที่ยงธรรม นี้จะไม่ให้พวกเขางุนงงกับคำกล่าวนี้ได้อย่างไร ? มันราวกับว่าบรรพชนเที่ยงธรรมจากนิกายหรือตระกูลทรงอำนาจ ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา !
บรรพชนต้นสนหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยความคิดของเขา " แต่...แต่..นี้คือบรรพชนเที่ยงธรรม ! บรรพชนเที่ยงธรรมที่สามารถฆ่าคนนับหมื่นได้ด้วยหนึ่งมือ ! "
เขาได้เห็นทักษะการปรุงยาที่สุดยอดของหลี่ฉีเย่และรู้ว่าเขาจะต้องกลายเป็นนักปรุงยาจักรพรรดิในอนาคต แต่บรรพชนต้นสนไม่มีความมั่นใจในระดับการบ่มเพาะของหลี่ฉีเย่
ในเวลานี้ ความจริงในโลกสมุนไพรหินนักปรุงยาอัจฉริยะจำนวนมากจะมีระดับการบ่มเพาะไม่มากนัก แม้แต่นักปรุงยาจักรพรรดิ ระดับการบ่มเพาะของเขาก้ไม่สามารถเทียบได้กับราชันเทพหรือเทพบรรพชนได้
นอกจากนี้หลี่ฉีเย่ยังไม่ได้แสดงการบ่มเพาะให้บรรพชนต้นสนเห็น หลี่ฉีเย่นั้นยังเยาว์และมีสุดยอดเต๋าแห่งการปรุงยา แต่บรรพชนต้นสนเชื่อว่าเขายังไม่ได้แข็งแกร่งกว่าบรรพชนเที่ยงธรรมในตอนนี้
หลี่ฉีเย่เพียงอมยิ้มและเอ่ย " เป็นบรรพชนเที่ยงธรรมแล้วยังไง ? แม้แต่ราชันเทพมาด้วยตัวเองก็เพียงแส่หาความตาย ปล่อยเรื่องเล็กน้อยนี้ให้ข้าจัดการ "
บรรพชนต้นสนกลายเป็นไร้คำพูดโดยสมบูรณ์ คำกล่าวเหล่านี้นั้นผิดปกติและกล้าหาญมากเกินไป ! ราชันเทพนั้นเป็นตัวตนระดับสูงในเก้าสวรรค์ ตัวตนที่สามารถปราบปรามทั้งโลกได้ ! แต่ตอนนี้หลี่ฉีเย่กล้าที่จะกล้าประโยคดังกล่าว นี้จะไม่ให้บรรพชนกลายเป็นใบ้ได้อย่างไร ?
หากมันเป็นคนอื่น บรรพชนต้นสนคงตวาดสำหรับความยโสเช่นนี้ไปแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่กล้าตะโกนใส่หลี่ฉีเย่ตอนนี้ เขาก็ยังรู้ว่าหลี่ฉีเย่นั้นกล่าวไร้เหตุผลมากเกินไป
หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองนายหญิง นางนั้นเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะมองหลี่ฉีเย่และเอ่ย " ท่านคิดจริงๆว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องไปเชิญบรรพชนออกมา ? "
" ข้าเคยโกหกตั้งแต่เมื่อไหร่ ? " หลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและเอ่ย " อย่าได้กังวล ด้วยมีข้าอยู่ที่นี่ บรรพชนเที่ยงธรรมก็เพียงแค่มดปลวก หากตระกูลหวังฟู่แสวงหาความตาย หรือแม้แต่พวกเขาจะมีอาณาจักรนักปรุงยาหนุนหลัง ข้าจะกำจัดตั้งตระกูลหวังฟู่ไปจนถึงรากเงาของพวกมัน ! " หลังจากกล่าวเสร็จ หลี่ฉีเย่หรี่ตาลง
ประเทศไผ่ยักษ์นั้นมีสถานะที่พิเศษอย่างมากในหัวใจเขา ดังนั้นหากตระกูลหวังฟู่กล้าที่จะแตะต้องประเทศนี้ เขาไม่แยแสที่จะสังหารพวกมันทั้งหมด !
สวะหน้าไหนที่กล้ารุกรานต่อประเทศไผ่ยักษ์พวกมันจะถูกฆ่าอย่างไร้เมตตา ! นี้เป็นหนึ่งเส้นที่ไม่ว่าใครก็ห้ามก้าวข้าม
นายหญิงฉีเยียนั้นพยักหน้าเล็กน้อยและเอ่ย " หากท่านมั่นใจเช่นนั้น..พวกเราก็เอาตามนี้ พวกเราจะยกเรื่องนี้ให้ท่านจัดการ "
แม้ว่านางจะรู้สึกว่าคำกล่าวของเขานั้นค่อนข้างหยิ่งยโส แต่ความรู้สึกของนางบอกว่าหลี่ฉีเย่ไม่ใช่พวกพูดจาล้อเล่น ความจริงการกระทำทั้งหมดของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยแผนการ นี้ทำให้นางเชื่อมัน
" ฝ่าบาท..." บรรพชนต้นสนสะดุ้งกับการตัดสินใจของนายหญิงฉีเยียน ที่กล่าวว่าประเทศนั้นกำลังถูกรุกรานโดยกองทัพที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ได้เกินจริง ตอนนี้บรรพชนของตระกูลหวังฟู่นั้นอยู่ด้านนอก แต่ผู้นำของพวกเขายกเรื่องทั้งหมดนี้ให้หลี่ฉีเย่จัดการและไม่เชิญบรรพชนออกมา นี้จะไม่ให้เขาหวาดกลัวได้อย่างไร ?
หลายปีที่ผ่านมา นายหญิงฉีเยียนนั้นเป็นผู้ปกครองประเทศที่ดี ทุกการตัดสินใจของนางเต็มไปด้วยความน่าชื่นชม แต่ตอนนี้บรรพชนต้นสนคนที่กำลังหาวิธีแก้ไขปัญหานี้ ไม่คาดว่านางจะโยนมันไปให้หลี่ฉีเย่
" บรรพชนต้นสน ไปเชิญบรรพชนปีศาจทั้งหมดมา เวลานี้ทุกปัญหาจะให้นายน้อยหลี่เป็นผู้จัดการ ทุกบรรพชนและศิษย์จะต้องทำตามคำสั่งของเขา " นายหญิงฉีเยียนนั้นประกาศช้าๆ แม้ว่าเสียงของนางจะไม่ดัง แต่มันก็เต็มไปด้วยอำนาจ
บรรพชนต้นสนกลายเป็นเงียบและไม่ได้เอ่ยสิ่งใด แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันบ้าเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำตามคำสั่ง
หลังจากบรรพชนต้นสนจากไป หลี่ฉีเย่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม " มันดูเหมือนว่าเจ้าจะเชื่อมั่นในตัวข้าอย่างมาก ? "
นายหญิงฉีเยียนอดไม่ได้ที่จะหันมาสบตากับเขาอย่างรวดเร็วและเอ่ย " ท่านมั่นใจในเรื่องนี้หรือไม่ ? " คำกล่าวเหล่านี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล
หลี่ฉีเย่มองไปที่นายหญิงฉีเยียนพร้อมกับอมยิ้มเอ่ย " ข้าชอบสตรีเช่นเจ้า "
การตอบสนองนี้ทำให้นางตกตะลึง เมื่อได้สติกลับมานางก็ทำเพียงยิ้มตอบเขา แน่นอนนางไม่ได้เข้าใจเจตนาของหลี่ฉีเย่ผิด นางไม่รู้ว่าเขากำลังหยอกล้อนางหรือกำลังใช้ประโยชน์จากนาง
ในเวลานี้ นางเชื่อมั่นว่าหลี่ฉีเย่ไม่มีทางหลอกนาง ด้วยการแสดงออกของเขา มันราวกับว่าแม้แต่เทพธิดาในเก้าโลกก็ยังไม่คู่ควรกับเขาเลย แม้แต่นางฟ้าจากสวรรค์ทั้งหลายก็ยังต้องยอมอยู่ในอ้อมกอดเขา
เขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจและความไม่แยแสสิ่งใดมากที่สุดเท่าที่นางเคยพบเจอ
ช่วงเวลาที่เหล่าบรรพชนได้รับคำสั่ง พวกเขายืนอย่างโง่งม บรรพชนคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะเอ่ย " เรื่องนี้มันบ้าเกินไป ! "
" บางที...ฝ่าบาทอาจจะให้โอกาสนายน้อยหลี่ในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ " บรรพชนอีกคนเอ่ย
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้บรรพชนหลายคนมองหน้ากัน คำกล่าวนี้นับว่ามีเหตุผลเพราะหลี่ฉีเย่จะเป็นผู้ปกครองประเทศในอนาคต เขาจะต้องพบเจอพายุเช่นนี้อีกมาก
แม้จะเต็มไปด้วยความสงสัย พวกเขาก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งของนายหญิง และรอคำสั่งจากหลี่ฉีเย่
เห็นสิบแปดบรรพชนนั่งรอคำสั่งของเขาอย่างเคร่งเครียด หลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเอ่ย " ก็แค่เพียงเรืองเล็กน้อย มันจำเป็นต้องทำมันราวกับเป็นเรื่องใหญ่ "
นายหญิงฉีเยียนไม่ได้เอ่ยอะไรเพิ่มเติมขณะที่บรรพชนทั้งสิบแปดยังคงยืนเงียบ สถานเช่นนี้อันตรายกับพวกเขาอย่างยิ่งและนี้ไม่ได้พุดเกินจริงเนื่องจากบรรพชนเที่ยงธรรมลงมืดด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้หลี่ฉีเย่กับพูดว่า นี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย...นี้เป็นบุคคลที่ไม่แยแสสิ่งใดมากที่สุดตั้งแต่ที่พวกเขาเคยพบมา !
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น