ตัวตนในความมืดคิดว่าเขาจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน แต่เขาไม่คาดว่าจะตกลงไปยังกับดักของหลี่ฉีเย่ !
ในเวลานี้หลี่ฉีเย่เพียงเอ่ยช้าๆ " เหล่าจักรพรรดิต่างรอจนถึงวันนี้ผ่านกาลเวลามานับไม่ถ้วน ปีนั้นเมื่อหาตระกูลโบราณยังอยู่ในโลกมนุษย์ เหล่าจักรพรรดิก็เริ่มวางแผนจะต่อต้านเจ้า น่าเสียดาย...พวกเขาทำไม่สำเร็จ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้บอกให้ตระกูลเหล่านั้นเก็บตัว บังคับให้เชื้อสายจักรพรรดิของพวกเขาปิดตัวลง ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังทิ้งบางอย่างไว้เบื้องหลัง ความหวังที่จะพลิกกลับ วันนั้นก็คือวันนี้ "
ตัวตนในความมืดไม่ได้เอ่ยตอบ แม้ว่าจักรพรรดิอมตะทั้งสิบสามคนจะไม่ใช่ตัวจริง แต่เจตจำนงต่อสู้ของพวกเขาก้เพียงพอแล้วที่จะข่มขู่
หลี่ฉีเย่เอ่ย " เหล่าจักรพรรดิ ไปหามัน ทำตามสิ่งที่พวกเจ้าปราถนามาตลอดหลายปี "
ภายในพริบตา จักรพรรดิอมตะทั้งสิบสามก็ถือหอกผนึกต้นกำเนิดและลอยอยู่บนชั้นฟ้า มันแผ่คลื่นของจักรวาลออกมา แต่ละคลื่นนับแบกโลกนับหมื่นและเหล่าเผ่าพันธ์ผี
พลังงานต้นกำเนิดปะทุทั่วโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ เหล่าจักรพรรดิด้วยหอกที่อยู่ในมือทำให้พวกเขาสามารถปัดเปาทุกอย่างได้ แม้แต่ตัวตนที่น่าเกรงขามก็ยังต้องคุกเข่าต่อหน้ามัน
" ตาย ! " ตัวตนในความมืดกรีดร้องออกมาและพุ่งไปพร้อมอาวุธที่น่ากลัวที่สุดของเขา เขานั้นไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดี แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้จนตัวตาย
" ตูม ! ตูม ! " การปะทะกันของทั้งสองฝ่าย ทำให้เกิดการระเบิดที่น่ากลัวและปราบปรามคนอื่น การต่อสุ้ครั้งนี้แม้แต่คนที่อยู่ในดินแดนห่างไกลก็ยังหวาดกลัว
สุดท้ายหอกผนึกต้นกำเนิดก็ได้เจาะผ่านร่างกายของตัวตนในความมืด ร่างกายของเขาระเบิดออกและถุกแทนที่ด้วยเลือดที่ไหลริน
" ม่ายยย ! " ตัวตนในความมืดกรีดร้องอย่างน่าอนาถหลังจากได้รับบาดแผลนี้ ช่วงเวลาที่เขาจะตายแสงถูกยิงออกมาจากร่างกายของเขา - พรสวรรค์ที่แท้จริง แม้ว่าชีวิตของเขาจะจบจากการระเบิดครั้งนี้ แต่เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของเขายังคงอยู่
เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์นี้ได้เปิดประตูเพื่อที่จะหนีออกไป เจตจำนงต่อสู้ของจักรพรรดิทั้งสิบสามเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและหลี่ฉีเย่ออกคำสั่งแก่ผู้กัดกิน ผู้กัดกินคำรามพร้อมกับพุ่งไปยังประตู
หลังจากประตูหายไป เส้นทางติดต่อกับภายในก็หายไป โลกได้กลายเป็นเงียบ หลี่ฉีเย่ไม่ได้ไล่ตามตัวตนในความมืดเพราะเขามีอย่างอื่นที่ต้องทำ
โลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเงียบสนิท มันเงียบจนกระทั้งพวกเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง เจตจำนงต่อสู้ของจักรพรรดิทั้งสิบสามหายไป เมื่อวานผ่านไปผู้คนถึงเริ่มหายใจได้ พวกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะพยามลุกขึ้น
บรรพชนที่ยืนอยู่ต่อหน้ากระจกไม่สามารถสงบลงได้และทำได้เพียงมองหน้ากันและกันด้วยความสับสน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นตัวตนที่ยอดเยี่ยมแต่พวกเขาก็ยังตกตะลึงกับเหตุการณ์ล่าสุด
ขณะเดียวกันย้อนกลับไปยังแอ่งที่เต็มไปด้วยซากศพ หลี่ฉีเย่ยืนอยู่ในความเงียบ ไม่มีอสูรตัวใดปรากฏออกมาจากพื้นดินอีก
บรรพชนต่างก็เฝ้ารอดูเพื่อดูว่ายังมีตัวตนทรงอำนาจใดจะโผล่ขึ้นมาอีกหรือไม่ ทว่าหลังจากผ่านไปนานมันก็ยังไม่มีสิ่งใดปรากฏ
หนึ่งในบรรพชนเอ่ย " อาณาจักรบรรพชนจบสิ้นแล้ว " ไม่มีใครคาดว่าจะมีจุดจบเช่นนี้
บรรพชนคนอื่นสูดลมหายใจลึกและเอ่ย " มันมีเมืองบรรพชนหรืออาณาจักรบรรพชนอีกต่อไป " เผ่าพันธ์ผีไม่รู้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรในตอนนี้ มันก่ำกึ่งระหว่างความยินดีและขมขื่น เพราะอาณาจักรบรรพชนนั้นมีความสำคัญกับพวกเขามาก่อน
มันมีมานานมากแล้ว แต่ตอนี้ พวกมันไม่มีอยู่อีกต่อไป มันไม่ได้ถูกทำลายด้วยตัวตนอย่างจักรพรรดิอมตะ ไม่ใช่ด้วยมือของเหล่าตัวตนอมตะหรือยอดนิรันดร์จากยุคก่อน แต่เป็นด้วยมือของผู้เยาว์มนุษย์คนหนึ่ง
ทุกคนสังเกตเห็นได้ถึงความไม่น่าเชื่อบางอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบ หลี่ฉีเย่ไม่เคยสู้อย่างแท้จริง ด้วยไม่ใช้ทักษะใดๆ เขาทำลายอาณาจักรบรรพชนได้ นี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าเขาทำลายพวกมันด้วยมือตัวเองเสียอีก
แม้ว่าในความจริงแล้วเจตจำนงจักรพรรดิอมตะทั้งสิบสามจะเป็นผู้ทำลายอาณาจักร แต่หลี่ฉีเย่เป็นคนควบคุมแผนการนับล้านปีนี้ให้เกิดขึ้น
" วิ้งง ! " ด้วยแสงที่เปล่งออกมาจากต้นบรรพชนผี มันมีรากปรากฏออกมาและหยั่งลึกลงไปบนพื้นดิน หลี่ฉีเย่ใช้ความคิดของเขาทำความเข้าใจกับสถานการณ์ดังกล่าว
เขารู้สึกว่าพื้นดินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและเอ่ยอย่างจริงจัง " นี้มัน..."
หลังจากผ่านไปนาน เขาก้นึกถึงอำนาจของต้นบรรพชนและมองไปยังดินแดนที่ห่างไกล สายตาของเขามองจากอาณาจักรบรรพชนไปยังสุสานใหญ่
" ไป ! " เขาปล่อยต้นบรรพชนผี ต้นไม้นั้นบินข้ามอาณาจักรและมุ่งเข้าสู่โลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์
ทุกคนที่เฝ้าดูอย่างต่างก็ซุบซิบ นี้คือต้นบรรพชนผีในตำนานที่บ่งบอกถึงต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี แต่หลี่ฉีเย่ก็ยังปล่อยมันไป หากเป็นคนอื่นพวกเขาจะต้องหวังที่จะครอบครองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว ดังนั้นหลายคนจึงไม่เชื่อในการตัดสินใจของหลี่ฉีเย่
ต้นไม้ได้พุ่งผ่านโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์และมุ่งหน้าสู่สุสานใหญ่ จากนั้นมันก็หยั่งรากในตำหนักบุปผาบรรพชน เหล่าคนตายที่นอนหลับใหลอยู่ได้ตื่นขึ้น
เจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมาะสม ดวงตาของนางยิงลำแสงไปยังอาณาจักรบรรพชนจุดที่หลี่ฉีเย่ยืนอยู่และเอ่ย " เจ้า...เจ้ากำลังพยามจะทำอะไร ? "
หลี่ฉีเย่ยืนอยุ่กลางแอ่งก่อนจะถอนหายใจเบาๆและมองไปยังสุสานใหญ่ " นี้คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ข้าสามารถทำได้แล้ว ที่เหลือเป็นธุระของข้า "
ร่างกายของหลี่ฉีเย่สั่น สร้างเป็นเสียงแกร๊กในเกราะต้นกำเนิดบรรพชน
" ตูม ! " ตัวเกราะบินออกไปจากร่างเขาและมุ่งสู่อาณาจักรสวรรค์
เมื่อมันมุ่งเข้าสู่อาณาจักร มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นเพียงการยืมชั่วคราวเท่านั้น มันถึงเวลาที่เขาจะมอบให้กับเจ้าของเกราะที่แท้จริง
เขาสูดลมหายใจลึกและเอ่ย " ได้โปรดช่วยข้าอีกครั้งด้วยการยิงครั้งสุดท้ายของพวกเจ้า "
จากนั้น ปืนใหญ่ทั้งเก้าสิบเก้ากระบอกรอบตัวเขาจัดเรียงตัวใหม่ มันรวมตัวกันเป็นขนาดมหึมาและพร้อมจะยิงครั้งสุดท้าย
" ตูม ! " มันยิงทำลายแอ่งซากศพและเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นเถ้าถ่าน ทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่รู้สึกว่ากระจกของพวกเขาสั่นสะเทือน
การยิงดังกล่าวนั้นเพียงพอที่จะทำลายเชื้อสายจักรพรรดิได้ นี้มันมีอำนาจขนาดไหนกัน ?
หลังจากยิงครั้งสุดท้ายแล้ว ปืนใหญ่ก็จางลง ด้วยเสียงระเบิดปืนใหญ่ทั้งเก้าสิบเก้ากลายเป็นเกาะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ภายในแอ่งของอาณาจักรที่ถูกทำลาย หลุมจักรวาลได้ปรากฏเบื้องหน้าหลี่ฉีเย่ นี้เป็นหลุมจักรวาลที่มีดวงดาวประดับอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่มีใครรู้ว่ามันเชื่อมต่อกับที่ใด
หลี่ฉีเย่มองไปยังหลุมจักรวาลนี้และพึมพำ " ความลับของอาณาจักรบรรพชนไม่ใช่สิ่งที่ข้ากำลังมือหา แต่ข้าก็จะลองดู " หลังจากกล่าวเสร็จเขาก้ก้าวเข้าไปในหลุมดำทันที
ช่วงเวลาที่เขาทำสิ่งนี้ ย้อนกลับไปยังสุสานใหญ่ หัวใจของเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนเต้นด้วยความเร็วและตะโกน " อย่าไป ! "
ทว่าน่เสียดาย หลี่ฉีเย่ไม่ได้ยินเสียงของนาง เขาหยิบโคมไฟและใช้แสงของมัน เปลวไฟสีดำถูกยิงเข้าไปในหลุมจักรวาล
" ตูม ! " เปลวไฟสีดำพุ่งเข้าไปในหลุมและทำให้มันโกรธ กระแสนำวันขนาดใหญ่ทอดยาวออกไปนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น กลืนกินอาณาจักรบรรพชนเข้าไป
หลี่ฉีเย่ถูกปกคลุมด้วยกระสำน้ำวนเหล่านี้ แต่เขาก็ยังสงบ เขาหยิบคันฉ่องหยินหยางขึ้นมาและสมบัติอื่นๆเพื่อป้องันร่างกายก่อนจะตะโกน " ข้าไม่สนว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ ข้าต้องการคำตอบวันนี้ ! "
ในเวลานั้นหน้าผากของเขานั้นแยกออกและมีกลิ่นอายของจักรพรรดิอมตะ มันราวกับว่าจักรพรรดิอมตจะก้าวออกมาจากทะเลแห่งความทรงจำ เขาใช้การเคลื่อนไหวลึกลับเพื่อโจมตีน้ำวน
มันถูกกระตุ้นโดยการโจมตีของหลี่ฉีเย่ ภายในดวงดารานับไม่ถ้วนระเบิดออก การระเบิดครั้งนี้มุ่งตรงไปยังหลี่ฉีเย่ด้วยแรงกดดันมหาศาล
หลี่ฉีเย่ไม่ยอมแพ้และคำรามพร้อมกับใช้อาวุธอมตะเพื่อปลดปล่อยทะลวงโชติช่วง
ขณะที่กลิ่นอายจักรพรรดิโหมกระหน่ำออกมาจากทะเลแห่งความทรงจำของหลี่ฉีเย่ แรงกดดันนั้นกดขี่น้ำวนสีเงิน !
" ตูม ! " สุดท้าย เสียงระเบิดที่รุนแรงดังออกมาในช่วงเวลาสุดท้าย หลี่ฉีเย่รู้สึกว่าร่างกายของเขาราวกับจะแตกออก
แรงระเบิดนี้สั่นสะเทือนทั่วโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ อาณาจักรบรรพชนถูกเป่าเป็นชิ้นๆด้วยน้ำวนสีเงิน และทุกอย่างกลายเป็นขี้เถ้า...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น