17 สิงหาคม 2560

ตอนที่ 605 จักรพรรดิอมตะเฟยหยาง

" กึก กึก ! " ต้นบรรพชนผีที่เคยแห้งแล้งเริ่มจะมีใบกระจายออกไปช้าๆ


" ตูม ! " แต่ในเวลานี้ ลำแสงถูกยิงออกมาจากแอ่งที่เต็มไปด้วยซากศพ พื้นดินถูกเปิดออกแลซากศพจำนวนมากปลิวออกไป

" ตูม ! " ถ้ำปรากฏออกมาพร้อมกับซากศพจำนวนมาก ทว่าร่างกายของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยอำนาจเหมือนกับตอนที่มีชีวิตอยู่ ทุกคนล้วนเป็นบรรพชนเที่ยงธรรม มีบางคนที่เป็นกระทั้งเทพแท้จริง !

เหล่าบรรพชนที่ดูฉากนี้ผ่านกระจกต่างสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความตกตะลึง นี้มันสถานที่แบบใดกัน ? มันถึงได้มีศกท้าทายสวรรค์จำนวนมากเช่นนี้ !

ในจากกลางของเหล่าซากศพคือความมืด พวกเขาสามารถเห็นโลงศพตั้งอยู่ภายใน มันมีลักษณะที่โบราณและมีคนจำนวนน้อยมากที่เคยเห็นลักษณะเช่นนี้มาก่อน

" ตูม ! " สี่ตัวตนอมตะก้าวออกมาจากความมืดที่มีโลงศพ โลงนับหมื่นนั้นจางหายไปเมื่อตัวตนเหล่านี้เดินออกมา ขณะที่คุ้มกันโลงศพ พวกเขาก็เดินเข้าหาหลี่ฉีเย่

หลังจากออกจาก0ความมืด พลังงานในสายเลือดของทั้งสี่ก็ระเบิดทำลายชั้นฟ้าและปฐพี ใครจะรู้ว่าตัวตนเหล่านี้อยู่มานานเหล่าไหร่กัน ? ทว่าพลังงานในเลือดของพวกเขายังคงเด่นสง่าและเปี่ยมด้วยอำนาจราวกับไม่เคยผ่านกาลเวลาและยุคสมัย

นี้คือตัวตนที่น่ากลัวที่สุด แม้ว่าห้าขุนนางเจ้าอสูรและเทพผู้ถูกสวรรค์ขับไล่จะมีกลิ่นอายที่น่ากลัว แต่พลังงานในสายเลือดของพวกเขายังเป็นคนชรา ในทางตรงกันข้าม พลังงานในสายเลือดของตัวตนอมตะทั้งสี่ยังคงเต็มเปี่ยม ราวกับพพวกเขาสามารถเป็นผู้เยาว์ได้อีหลายล้านปี

บรรพชนที่ยืนอยู่หน้ากระจกเอ่ยกระซิบ " นี้เป็น...บรรพบุรุษของพวกเรา ? "

ตัวตนอมตะทั้งสี่นั้นมีลักษณะของเผ่าพันธ์ผี พวกเขานั้นมีรูปร่างหน้าตาคล้ายมนุษย์หากมองภายนอก แต่พวกเขานั้นมีพลังงานชั่วร้าย พลังงานเหล่านี้ไม่เหมือนกับห้าขุนนางเจ้าอสูร มันมีบรรยากาศที่งดงามและอันตรายเปล่งกระกายสีม่วง

สีม่วงนี้เป็นสีเฉพาะของเผ่าพันธ์ผี มีเพียงเผ่าพันธ์ผีที่มีเลือดสีนี้ในโลก

" โฮกกก ! " เมื่อตัวตนอมตะเหล่านี้ก้าวหาหลี่ฉีเย่ ผู้กัดกินพุ่งกลับมายืนด้านข้างเขาและคำราม มันมีท่าทางของการต้องการจะเขาไปขย้ำสิ่งมีชีวิตเหล่านี้

หลี่ฉีเย่เก็บต้นไม้ขึ้นมา เขาลูบผู้กัดกินและเอ่ยอย่างสงบ " อย่าได้กังวล อย่าได้กังวล พวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า เพียงแค่รอดู "

" ตูม ! " ในเวลานี้ ตัวตนอมตะทั้งสี่ก็ลงมือ ลองจินตนาการว่าตัวตนทั้งสี่นี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าเทพผู้ถูกขับไล่ ดังนั้นมือตัวตนระดับนี้ร่วมมือกัน ดวงดาราบนชั้นฟ้าก็เริ่มจะพังลงมาที่ละดวง

ดวงตาของหลี่ฉีเย่หรี่ลงมือเผชิญหน้ากับการโจมตีที่จะเข้ามาถึง ผู้กัดกินนั้นต้องการจะพุ่งออกไปแต่ถูกเขาหยุดไว้

" ปังง ! " ในเวลานี้ ธงที่กวาดผ่านอาณาจักรนับไม่ถ้วนและไม่มียุคได้สามารถสยบได้ปรกาฏ ไม่มีใครรู้ว่าธงจักรพรรินี้มาจากไหนเมื่อนโผล่ออกมาจากพื้นดิน

" ตูม ! " ช่วงเวลาต่อมา ย้อนกลับไปยังหมู่บ้านแห่งความทรงจำ กลิ่นอายของจักรพรรดิไร้สิ้นสุดแผ่กระจายไปทั่วโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับเสียงคำรามของมังกรและฟินิกซ์ ผู้ที่กวาดผ่านยุคได้เดินก้าวเดินและเพียงก้าวเดียวก็มาถึงอาณาจักรบรรพชน และด้วยอีกหนึ่งก้าวเขาก็มาถึงใจกลางแอ่งซากศพ

" ปังง ! " คนคนนี้กวาดผ่านไปด้านหน้าด้วยธงของจักรพรรดิและส่งให้สี่ตัวตนอมตะปลิวไป นี้เป็นตัวตนอมตะของจริง ! คนอื่นๆในราวกับเป็นเพียงของปลอมเท่านั้น !

ชายคนนี้พร้อมกับธงของเขายืนอยู่ที่จูดสูงสุดมีมังกรทองและฟินิกซ์ศักดิ์สิทธิ์หมุนวนรอบตัวเขา ตัวตนในโลกนับหมื่นล้วนต้องแสดงความเคารพไม่ว่าจะเป็นเทพหรือปีศาจ

ตัวตนทีมีลักษณะที่เด่นสง่า หนึ่งเดียวที่กวาดผ่านยุคนิรันดร์ แม้ว่าจะผ่านไปหลายปี ชายคนนี้ก็ยังคงเป็นอิสระและมีความภาคภูมิใจในตนเอง - ยังคงกดขี่ผู้คน กลิ่นอายจักรพรรดิจากร่างกายของเขาทำให้โลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือน ในเวลานี้แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมก็ต้องหมอบกราบลงบนพื้นดิน !

" ตาย ! " ตัวตนอมตะทั้งสี่คำรามออกมาพร้อมกับสุดยอดอาวุธและพุ่งเข้าใส่ พวกเขามีทักษะโบราณที่ยิ่งใหญ่ การโจมตีของเขาสามารถสังหารเทพได้ !

" ไสหัวไป ! " ร่างของคนนี้โบกสะบัดธงด้วยอำนาจจักรพรรดิและกวาดผ่านทุกสิ่ง ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขาก้กลายเป็นเถ้าถ่านด้วยธรงจักรพรรดินี้

ตัวตนอมตะทั้งสี่ปลิวไปบนท้องฟ้าพร้อมด้วยเลือดที่สาด ตัวตนอมตะทั้งสี่ถูกสังหารด้วยการตวัดธงเพียงหนึ่งครั้ง ! นี้คือสุดยอดอำนาจอย่งาแท้จริง !

บรรพชนที่ชรารู้ว่าตัวตนคนนี้เป็นใครก่อนจะมองหน้ากระจกและอุทาน " จักรพรรดิอมตะเฟยหยาง ! "

บรรพชนจากยุคโบราณมองภาพนี้และเอ่ย " สัญลักษณะของผู้ที่กวาดผ่านโลก จักรพรรดิอมตะเฟยหยาง..เขายังคงกดขี่ผู้คนหลังจากผ่านมาหลายปี ! จักรพรรดิที่เปล่งประกายที่สุด ผู้ที่อยู่บนจุดสูงสดของจักรพรรดิ ! "

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ กลุ่มของบรรพชนมองไปยังกระจกจักรพรรดิตรงหน้าอย่างประหลาดใจที่เห็นธงของจักรพรรดิ แม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมก็ยังต้องหมอบกราบ !

บรรพชนอีกคนเอ่ยถาม " หรือจักรพรรดิจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ? หรือมันเป็นเพราะเขาเสด็จลงมา ? "

ตัวตนที่อยู่มาตั้งแต่ยุคโบราณส่ายหัวและเอ่ยกับบรรพชนรุ่นเยาว์ " ทั้งสองนั้นผิด นี้เป็นเหมือนกับเจตจำนงแห่งการต่อสู้นิรันดร์ ใครจะคาดว่าจักรพรรดิจะยังไม่ปล่อยอาณาจักรบรรพชนไปหลังจกาผ่านมาหลายล้านปีและทิ้งเจตจำนงแห่งการต่อสู้เอาไว้ นี้แสดงว่าเขาต่อต้านอาณาจักรบรรพชนจนถึงที่สุด "

หลังจากที่จักรพรรดิอมตะเฟยหยางกวาดผ่านตัวตนอมตะทั้งสี่ด้วยธงของเขา เสียงที่แหบแห้งโบราณก็ดังออกมาจากโลงศพ " เฟยหยาง เจ้าอย่าได้ยั่วยุข้า ในอดีตเมื่อเจ้ายังคงอยู่ในโลก เจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้ ไม่ต้องเอ่ยถึงตอนนี้เป็นเพียงแค่เจตจำนง "

เสียงนี้เต็มไปด้วยอำนาจและทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนถึงจิตวิญญาณ พวกเขาทั้งหมดถึงกับต้องคุกเข่า !

เจตจำนงของจักรพรรดิอมตะเฟยหยางไม่ได้เอ่ยตอบ แต่หลี่ฉีเย่ใช้โอกาสนี้เอ่ย " นั้นเป็นเพียงอดีตและไม่ใช่ปัจจุบัน ปราศจากต้นบรรพชนผี เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคู่มือของจักรพรรดิอมตะได้ ? "

เสียงเก่าแก่โบราณดังออกมาจากโลงศพอีกครั้ง " ดี ดี ดี...เจ้าเด็กน้อยมนุษย์ถึงกับกล้าหยิ่งยโสต่อหน้าข้า ? ทว่าข้ายังต้องขอบคุณเจ้าสำหรับการฟื้นฟูต้นบรรพชนผี มันช่วยข้าได้มาก ด้วยกาฟื้นตัวของมัน ข้าสามารถเป็นนิรันดร์ได้และไม่ถูกทำลายไปตลอดกาล ! "

หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะก่อนจะเอ่ย " แม้ว่าข้าจะไม่เห็นเจ้า เจ้าสัตว์ประหลาด ข้าก็รุ้หนึ่งหรือสองอย่างเกี่ยวกับเจ้า ข้าไม่สนใจว่าอสูรที่เจ้าสร้างมามันจะมีเท่าไหร่ แต่ทุกอย่างจะต้องจบสิ้นวันนี้ ! "

" เวลานั้นเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ...แม้แต่มดปลวกเช่นเจ้ายังพูดจาใหญ่โตเช่นนี้่ได้ " เสียงโบราณดังออกมาจากโลงศพและไม่ได้โกรธมันกลับหัวเราะ

" อยากเอ่ยอะไรก็เอ่ยเถอะ ทว่าก่อนที่เจ้าจะตาย ข้ามีเรื่องจะถาม " หลี่ฉีเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ในอดีตมีคนมาที่นี่ หากข้าเข้าใจถูก ทุกคนได้เน่าเปื่อยอยู่ที่นี่มานานแล้วและกำลังจะตาย แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภายหลังทุกคนต้องกลายเป็นซากศพ แต่ศพภายใต้ต้นบรรพชนผีไม่ใช่คนที่ข้ากำลังตามหา ! "

" ข้าเข้าใจแล้ว " เสียงโบราณดังออกมาจากโลงศพ " เจ้ากำลังพูดถึงคนคนนั้นใช่ไหม ? คนคนนั้นมีจิตวิญญาณที่ไม่เหมือนใคร...คนคนนั้นถือเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแท้จริง แต่พวกมันไม่ได้อยู่ในการครอบของของข้า "

" เช่นนั้นรึ ? ข้าจะตามเขาเองหลังจากพลิกคว่ำเจ้าได้แล้ว " หลี่ฉีเย่เอ่ด้วยรอยยิ้ม

" เจ้ามันก็เป็นแค่มด ! " เสียงโบราณดังออกมาจากโลงศพ มือยืนออกมาจากโลงศพกลายเป็นภาพที่แปลกประหลาด มันมีฉากที่บรรพชนอมตะและตัวตนอมตะที่แท้จริงจำนวนมากกำลังสวดต่อคัมภีร์ของพวกเขา มันราวกับว่าเขาเป็นผู้ครอบครองโลกนับไม่ถ้วน ผู้ปกครองที่ครั้งหนึ่งได้รับการบูชาจากเทพและปีศาจ

ภาพแปลกๆนี้น่าตกตะลึงอย่างมาก แม้แต่ภายแปลกๆในโลกจักรพรรดิมนุษย์ก็ไม่อยู่ในระดับนี้

หนึ่งในบรรพชนเผ่าพันธ์ผียืนขึ้นหน้ากระจกและพึมพำ " หรือนั้นคือบรรพบุรุษของพวกเราจริงๆ ? หรือเขาจะเป็นตัวตนอมตะที่แท้จริง ราชันของพวกเขา ? "

มือที่เหี่ยวเฉาได้พุ่งออกไปหาหลี่ฉีเย่ เจตจำนงต่อสู้ของจักรพรรดิอมตะเคลื่อนไหวพร้อมด้วยธงทะยานนภาของเขา ในเวลาเดียวกัน หลี่ฉีเย่ปล่อยผู้กัดกินพุ่งไปพร้อมกับเสียงคำราม

การโจมตีนี้ทำให้โลกราวกับจะแตกออกเป็นเสียงๆและเกิดการระเบิดที่น่าสยดสยอง ทั้งแอ่งนั้นพังทลาย แม้ว่ามันจะไม่สามารถจับหลี่ฉีเย่ได้ แต่มันก็หยุดธงทะยานนภาและผู้กัดกินไว้ได้

ฉากนี้นั้นโหดร้ายเกินไป มือที่สามารถหยุดการโจมตีจากจักรพรรดิอมตะและผู้กัดกินพร้อมกันได้ นี้เป็นตัวตนระดับใด

หลี่ฉีเย่แค่นเสียงอย่างเย็นชา " เจ้าเป็นเพียงปีศาจที่อยู่ใต้ดิน แต่ยังแกล้งเป็นตัวตนอมตะที่แท้จริง ? " หลังจากกล่าวเสร็จเขาก็หยิบโคมไฟออกมา เปลวไฟสีดำถูกยิงไปปะทะกับมือ

" ตูม ! " ภาพแปลกๆนั้นแตกออกไปและปรากฏรูปร่างของมือที่แท้จริงต่อหน้าทุกคน

นี้เป็นมือที่น่าสะพรึงกลัวมันปราศจากผิวหนังใดๆ เป็นเมือที่มีเพียงกล้ามเนื้อสีแดง ทว่ากล้ามเนื้อเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมือ ทว่ามันชิ้นส่วนของอย่างอื่นและนำมาประกอบกัน กล้ามเนื้อสดใหม่เหล่านี้ทำให้น่าขนลุกอย่างมาก

เสียงโบราณดังออกมาจากโลงศพอีกครั้ง " มันดุเหมือนว่าพวกเจ้าบังคับให้ข้าต้องกลับไปมีชีวิต " ในเวลานั้น เสียงแกร๊กดังออกมาจากโลงศพและมีคนลุงขึ้นยืนภายในความมืด มันเป็นเพียงความมืดและไม่สามารถเห็นร่างกายได้ นี้เป็นราชันแห่งความมืด ทรราชยามราตรี

เมื่อคนคนนี้ยืนขึ้น มันไม่มีบรรพยากาศทีน่าขนลุกหรือน่ากลัว ทว่าในเวลานี้เผ่าพันธ์ผีนับไม่ถ้วนต่างคุกเข่า มีไม่กี่คนที่สามารถยืนได้...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น