" ตูม ! " ทักษะอมตะของตี๋เชานั้นพึงจะเริ่มต้นขึ้น แต่มันถูกกำปั้นของหลี่ฉีเย่ผนึกหอกแห่งจักรพรรดิไว้ นี้ทำให้ทักษะที่เขาพึงจะเรียกใช้ออกมาหยุดชะงักทันที
กำปั้นนับหมื่น - กำปั้นผนึกทองคำ นี้เป็นทักษะที่อยู่นอกเหนือกายาอมตะทั้งสิบสอง และมันมีอำนาจในการผนึกอาวุธทุกชนิด !
ตี๋เชานั้นตกตะลึงอีกครั้งเมื่อหอกแห่งจักรพรรดิของเขาถูกผนึก เขาทำได้เพียงทิ้งหอกไว้และวิ่ง แต่ว่า..
" ตูม !! " เขานั้นไม่สามารถออกไปไกลระยะของกำปั้นได้ กำปั้นนี้กระแทกเข้ากับกระดูกสันหลังของเขาและทำให้เขาพ่นเลือดสดออกมา
ตี๋เชาไม่ได้เห็นของแขนหลี่ฉีเย่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด มันแปลกอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่เห็นชัดๆ แต่หลังของเขาแน่นอนว่าได้ถูกทำลายโดยหลี่ฉีเย่ที่อยู่ไกลออกไป
กำปั้นนับหมื่น - กำปั้นไร้มลทิน ! กำปั้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของความว่างเปล่าและไร้มลทิน เช่นนั้นตี๋เชาจะเห็นได้อย่างไร ?
" ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง ! " ในทันใดนั้นตี๋เชาก็พบว่าตัวเองตกอยู่ในสภาวะที่ลำบากขณะที่หลี่ฉีเย่ไล่ทุบตีเขา แม้ว่าตี๋เชาจะสามารถใช้ทักษะที่ยอดเยี่ยมในการควบคุมหอก และปลดปล่อยมังกรทองทั้งเก้าออกมา แต่เขาก็ยังไม่สามารถหยุดหมัดจำนวนมากนี้ได้
ตอนแรกเขาต้องการใช้หอกฟื้นพลังของเขาแต่กับถูกขัดขว้างโดยหลี่ฉีเย่ หอกของเขานั้นไม่ใช่คู่มือของกำปั้นของหลี่ฉีเย่
" ปังง ! " สุดท้ายกำปั้นของหลี่ฉีเย่ก็ซัดตี๋เชาร่วงลงมาและฝังเขากับพื้นดินด้านล่าง
ในเวลานี้ ตี๋เชานั้นยอมแพ้ในการใช้หอกเพราะว่าเต๋าของเขานั้นไม่สามารถสู้กับหลี่ฉีเย่ได้
" ตูม ! " ร่างกายของเขากระแทกลงไปในพื้นดิน บาดแผลของเขานั้นแย่กว่าหลี่ฉีเย่ ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือดและกระดุกในร่างกายของเขาถูกบดขยี้
ถ้าหากเป็นคนอื่นพวกเขาคงตายไปแล้ว เพราะพวกเขาไม่สามารถทนต่อการโจมตีเช่นนี้ได้ ทว่าร่างกายของตี๋เชาก็ยังพบกับความยากลำบากเมื่อเผชิญกับการโจมตีของหลี่ฉีเย่
ทันใดนั้นโลกก็ได้กลายเป็นเงียบ ผู้ฝึกตนจากทุกเผ่าพันธ์กลายเป็นเงียบและมองหน้ากันและกัน
ไม่มีใครกล้าพูดในตอนนี้เพราะเสียงของพวกเขาอาจจะทำลายฉากที่งดงามตรงหน้า หลี่ฉีเย่ไล่าล่าและทุบตีตี๋เชา จากนั้นตี๋เชาก็ใช้ทักษะหอกของเขาพลักดันหลี่ฉีเย่กลับ
เผ่าพันธ์ผีนั้นสั่นสะท้านอยู่ภายใน ถ้าหากตี๋เชาแพ้หลี่ฉีเย่ เช่นนั้นก็ไม่มีใครในเผ่าพันธ์ผีต่อสู้กับเขาได้ และพวกเขาก็ไม่สามารถยโงหัวขึ้นได้อีก
เทียนหุยหลี่ก็ยังตกตะลึงกับกำปั้นจำนวนมากมายของหลี่ฉีเย่ มันปลูกฝังความกลัวลงในใจอย่างอัจฉริยะเช่นเขา ! ถ้ามันเป็นเขาแทนที่จะเป็นตี๋เชาผลของมันคงออกมาแย่กว่านี้มาก
ถึงอย่างนั้นตี๋เชาก็ยังคงไม่ตายเพราะหลี่ฉีเย่ไม่ได้เร่งรีบที่จะฆ่าเขา ตี๋เชาใช้โอกาสนี้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินขึ้นไปบนท้องฟ้าและเผชิญหน้ากับหลี่ฉีเย่อีกครั้ง
" แกร๊ก แกร๊ก ! " เสียงกระดูกที่แตกออกเชื่อมต่อกันปรากฏออกมาจากตัวของตี๋เชา - ด้วยจิตวิญญาณของเขา เขาสามารถเชื่อมกระดูกได้
หลี่ฉีเย่อมยิ้มขณะมองตี๋เชา เขาไม่ได้เร่งรีบที่จะลงมือ เขากำลังรอให้ตี๋เชาฟื้นบาแผลก่อนจะสู้กันอีกครั้ง
เผ่าพันธ์ผีนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นอากรของตี๋เชาดีขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่ตี๋เชายังมีชีวิตอยู่ เขาก็มีโอกาสฆ่าหลี่ฉีเย่ !
" วีรบุรุษในหมู่ผู้เยาว์ ! " หัวใจของเหล่าบรรพชนจากนิกายทรงอำนาจสั่นสะท้าน พวกเขาแอบตกตะลึงพร้อมกับหวาดกลัว
ทั้งตี๋เชาและหลี่ฉีเย่ทำให้เหล่าคนตายที่มีอายุมากว่าล้านปีมีความรู้สึกหวาดกลัวและอิจฉา เพราะทั้งสองนั้นแข็งแกร่งมากเกินไป พวกเขาเริ่มจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของทั้งสองในอนาคต
มันอาจจะกล่าวได้ว่ายุคของพวกเขาได้ใกล้เขามาแล้ว ขณะที่พวกเขาเติบโตขึ้น ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาก็จะไม่ได้ด้อยกว่าเหล่าคนตาย เมื่อพวกเขามาถึงระดับบรรพชนเที่ยงธรรม บรรพชนทำได้เพียงยอมแพ้แต่พวกเขา แม้แต่ผู้นำนิกายที่ทรงอำนาจก็ยังต้องหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อของพวกเขา
" รุ่นอนาคตจะกำราบและปราบปรามคนรุ่นก่อน...พวกเรานั้นแก่แล้ว และที่นี่ไม่โลกของพวกเราอีกต่อไป " บรรพนจากนิกายทรงอำนาจพึมพำ
ในเวลานี้ บรรพชนจากนิกายทรงอำนาจอยากจะออกไปคว้าสมบัติที่ยิ่งใหญ่ในหลุมฝังศพแห่งลางร้าย ก่อนที่พวกเขาจะหลับลึก พวกเขาไม่ต้องการอรวันที่ตี๋เชาหรือหลี่ฉีเย่ขึ้นมาเทียบเท่าพวกเขา ไม่เช่นนั้นศักดิ์ศรีของบรรพชนรุ่นก่อนจะพังลงทันที
สำหรับพวกเขา จินตนาการเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ สิบปีจะเป็นระยะเวลาสั้นที่สุดและสามสิบปีจะระยะเวลาที่นานที่สุด ที่ลูกรักของสวรรค์ทั้งสองจะเติบโต บรรพชนจากนิกายทรงอำนาจจะถูกพวกเขาทุบตีอย่างแน่นอน
ทวีปลึกลับได้ลอยอยู่เหนือชั้นฟ้า เป็นยอดยุคอาณาจักรโบราณที่ค่อยๆลอยเข้ามาใกล้ และเสียงโบราณดังอยู่ภายใน " ผู้เยาว์ในรุ่นนี้พิเศษอย่างมาก "
ในเวลานี้ ตี๋เชาและหลี่ฉีเย่ยังคงจ้องกันอยู่บนท้องฟ้า การต่อสู้ของพวกเขาจนถึงตอนนี้ล้วนเป็นทักษะที่พวกเขาสร้างขึ้นและเปิดหูเปิดตาแก่ผู้อื่น
ทุกคนรอค่อยฟื้นฟูบาดแผลของเขาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าการต่อสู้รอบใหม่จะเริ่มต้นในอีกไม่ช้า และพวกเขากระตือรือร้นที่จะเห็นสิ่งที่ทั้งสองแสดงในรอบต่อไป
" ใช้ทุกวิธีการที่เจ้ามีเถอะ " หลี่ฉีเย่มองไปยังตี๋เชาก่อนจะเอ่ย " พวกเขานั้นสู้กันมานานแล้ว และมันทำให้คนอื่นเสียเวลาของพวกเขา "
" พวกเราจะมาจบเรื่องนี้กัน ! " ดวงตาของตี๋เชาสว่างไสวอย่างมุ่งมั่น
ถึงแม้ว่าเขาจะโดนหลี่ฉีเย่ทุบตีราวกับกระดาษแต่เขาก็ยังไม่หวาดกลัว ในทางตรงกันข้ามเจตนาสู้ของเขาเพิ่มมากขึ้น
ตี๋เชาก้ยังคงเป็นตี๋เชา เขานั้นแตกต่างจากคนอื่น เขานั้นยินดีที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และเขาไม่เคนกลัวศัตรูเหล่านี้
หลี่ฉีเย่อมยิ้มอย่างชื่้นชมที่ยังเห็นสายตาของตี๋เชาเต็มไปด้วยเจตนาต่อสู้และไม่ยอมแพ้ เขาเอ่ย " นี้จะเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ใช้สิ่งที่ดีที่สุดที่เจ้ามีออกมาได้เลย "
ตี๋เชานั้นจ้องหลี่ฉีเย่ด้วยสายตาที่จริงจัง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก วงแหวนชีวิตของเขาปรากฏขึ้นพร้อมกับทะเลเลือด ในเวลานี้เขาไม่ได้ปิดกั้นพลังงานในสายเลือดจากภายในอีกต่อไป
สำหรับตี๋เชา นี้เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย หากศัตรูของเขาไม่ตายคนที่ตายจะต้องเป็นเขา
พลังงานในสายเลือดไร้สิ้นสุดของเขาก็ให้เกิดเสียงคำราม เมื่อวงแหวนชีวิตของเขาหมุ่นพลังงานในสายเลือดของเขากลายเป็นสดใสมากยิ่งขึ้น แต่ละหยดเลือดนี้นมีเอกลักษณ์และปลดปล่อยพลังงานทรงอำนาจ หยดเลือดแต่ละหยดหนักเท่ากับภูเขาและนี้ทำเต๋าของเขาคำราม ในเวลานี้ตี๋เชาใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเพื่อฆ่าหลี่ฉีเย่
" ตี๋เชาพยามจะใช้ทักษะอะไร ? มันเป็นทักษะจักรพรรดิ หรือ เจตจำนงแห่งสวรรค์ หรือเป็นทักษะต้องห้าม ? " ทุกคนนั้นสั่นสะท้านเมื่เห็นตี๋เชาระเบิดพลังงานในสายเลือดออกมา
ผู้เชียวชาญที่รู้จักตี๋เชาเป็นอย่างดีส่ายหัวและเอ่ย " ไม่มีทาง ! ตี๋เชานั้นเป็นคนที่น่าภาคภูมิใจ ตั้งแต่หลี่ฉีเย่ไม่ได้ใช้ทักษะเหล่านี้สู้กับเขา เขาก็ไม่พึงทักษะของคนอื่นเพื่อเอาชนะหลี่ฉีเย่ ตี๋เชาจะใช้ทักษะของตัวเองเพื่อกำราบศัตรู ! "
" หรือมันจะเป็น...สิ่งที่นอกเหนือไปจากเต๋าแห่งหอก ตี๋เชาได้สร้างทักษะที่น่าอัศจรรย์อันอื่นด้วย ? " การคาดเดานี้ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจ
สำหรับคนจำนวนมากหรือบรรพชน การสร้างทักษะเต๋าแห่งหอกหรือการก้าวเท้าของกิเลนนั้นน่าภาคภูมิใจพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้ มันดุเหมือนว่าตี๋เชาจะประสบความสำเร็จอื่นและไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
นี้ทำให้หัวใจของทุกคนเต้นเร็วขึ้น นี้จะเป็นทักษะแบบใด ? มันอาจจะแข็งแกร่งกว่าเต๋าแห่งหอกหรือไม่ ?
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ เพราะว่าพวกเขาคิดว่าการสร้างทักษะเต๋าแห่งหอกทั้งเก้าของตี๋เชานั้นเป็นข้อจำกัด อย่างน้อยก็เป็นข้อจำกัดของอัจฉริยะที่ยังไม่ได้ไปถึงระดับบรรพชนเที่ยงธรรม
หากเขาสามารถสร้างทักษะที่แข็งแกร่งกว่านี้ได้ มันจะเป็นเรื่องท้าทายสวรรค์อย่างมาก มันจะไม่ประหลาดใจเลยหากเขาถูกเรียกว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์
" ตูม ! " เมื่อพลังงานในสายเลือดของตี๋เชามาถึงจุดสูงสุด พื้นดินได้สั่นสะเทือน ในไม่ช้าโลกก็มืดลงและท้องฟ้าได้หายไป
ตัวของตี๋เชานั้นส่องแสงจางๆขณะที่หมอกสีดำกระจายไปทั่วและเปลี่ยนเป็นเวลากลางคืน ในเวลาโลกที่ห่อหุ้่มด้วยหมอกสีดำที่ตี๋เชาสร้าง
ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้น หลี่ฉีเย่ได้ก้าวถอยหลังหลังจากถูกโจมตีด้วยความมืดมิด ทว่ามันสายเกินไป
หมอกมืดนั้นกลายเป็นเขตแดนและมันจับหลี่ฉีเย่และตี๋เชาไว้ภายใน หนึ่งจะพบว่าไม่มีดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ภายในเขตแดนนีั ไม่มีจักรวาล นกหรือแมลง ไม่มีเต๋าหรือทักษะใดๆ
ทุกอย่างล้วนหายไปภายในเขตแดนนี้ ทุกอย่างล้วนไร้สีสันและชีวิตนอกจากตัวตี๋เชาเอง
การแสดงออกของหลี่ฉีเย่กลายเป็นจมลงหลังจากถูกขังอยู่ภายในเขตแดน เขาพยามใช้ทักษะอื่นๆ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่าทักษะหรือพลังทุกอย่างได้หายไปจากโลก...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น