23 สิงหาคม 2560
ตอนที่ 413 หมวกหลิวทองคำ
" ทำตาใจเจ้าเถอะ " หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างไม่แยแส " แม้แต่บรรพชนของเจ้าก็ยังไม่รู้เรื่องนี้หือไม่แต่จะรู้ ในนิกายพันแม่น้ำหวนก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ "
กุญแจสำคัญนั้นไม่ใช่เจตจำนงสวรรค์และวงจรสวรรค์แม่น้ำชะตากรรม แต่เป็นโซ่ทองคำของหลี่ฉีเย่ ปราศจากอำนาจในทะเลความทรงจำของหลี่ฉีเย่ มันจะไร้ประโยชน์แม้ว่าจะมีคนรู้ความลับแต่พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปได้
หลานอวิ๋นจูมองไปยังการแสดงออกที่ไม่แยแสของหลี่ฉีเย่และเอ่ยถาม " เจ้ารู้เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร ? "
นั้บตั้งแต่ออกจากวิหารทองคำดูเหมือนว่าเขาจะจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ดังนั้นนางจึงกังวลเล็กน้อย
" คำนวนด้วยนิ้วมือ " หลี่ฉีเย่ตอบด้วยรอยยิ้ม
" ไปคำนวนในนรกเถอะ ! " หลานอวิ๋นจูกัดฟันด้วยความโกรธ นางนั้นมีความตั้งใจที่ดี แต่สารเลวนี้เนรคุณนางอย่างสิ้นเชิง !
หลี่ฉีเย่เหลือบมองไปที่นางและเอ่ยถาม " เจ้าอยากจะอยุ่ที่นี่เพื่อสานสัมพันธ์กับข้า หรือต้องการจะรีบขึ้นไปเพื่อไม่ให้ผู้นำของเจ้ากังเวล ? "
" เพ้ย เจ้าเพ้อเจ้ออันใด ใครต้อวการสานสัมพันธ์กับเจ้า ? อย่าได้หลังตัวเอง " หลานอวิ๋นจูเอ่ยโต้ตอบด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
* * * * *
ด้านบนเหนือบ่อหยินหยาง เต๋าเบ่ากุ้ยนั้นกังวลที่เห็นหลานอวิ๋นจูและหลี่ฉีเย่ยังไม่ได้กลับมาแม้จะผ่านไปนาน
" หรือพวกเขาจะลงไปลึกมาก ? " เขาพึมพำด้วยความสงสัย
ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังบ่อหยินหยาง แม้ว่าการบ่มเพาะของหลานอวิ๋นจูจะน่ากลัว แต่ผู้นำนิกายรู้ดีว่าบ่อนี้นั้นน่ากลัวแค่ไหน
เขาไม่ใช่คนเดียวที่กระวนกระวาย กระทั้งผู้อาวุโสคนอื่นก็เป็นเช่นกัน " ฮึ่มม ! แม้ว่าเจ้าสารเลวนี้ต้องการจะตาย เขาก็ไม่ควรลากคนอื่นไปด้วย ! "
ผู้อาวุโสอีกคนเอ่ย " หากมีอะไรเกิดขึ้นกับอวิ๋นจู ข้าจะเป็นคนฆ่าเจ้าสารเลวนี้เอง ! "
ในเวลานั้นความโกรธของทุกคนถูกนำมาลงที่หลี่ฉีเย่ ศิษย์จำนวนมากล้วนสาปแช่งหลี่ฉีเย่และกังวลเกี่ยวกับหลานอวิ๋นจู
มีเพียงลู่ไป๋ฉิวคนเดียวที่ห่วงความปลอดภัยของหลี่ฉีเย่ นางนั้นยืนข้างบ่อและกังวลอย่างเงียบๆพร้อมทั้งอธิษฐานให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย
" ผู้นำนิกาย ข้าเกรงว่ามันจะดูไม่ดีแล้ว ให้พวกเราลงไปดูเป็นอย่างไร ? " เห็นทั้งสองคนไม่ออกมาหลังจากผ่านไปนาน ผู้อาวุโสอีกคนเอ่ย
เต๋าเบ่ากุ้ยที่กำลังกังวลพยักหน้าและเอ่ย " พวกเราสามารถหยุดการทดสอบจับหญ้าอมตะไว้ก่อนได้ และลงไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาหรือไม่ "
" ตูมม ! " ช่วงเวลาที่ผู้นำนิกายต้องการจะดำลงไป มีสองร่างพุ่งขึ้นมาจากบ่อ
ทั้งผู้อาวุโสและเหล่าศิษย์ล้วนเต็มไปด้วยความสุขหลังจากเห็นทั้งสองมีชีวิตขั้นมาจากบ่อ
" พวกเขาออกมาแล้ว ! " บางคนอุทาน
เสียงตะโกนของพวกเราทำให้ลู่ไป๋ฉิวยิ้มหลังจากเห็นหลี่ฉีเย่ปลอดภัยและมายืนข้างเขา
เต๋าเบ่ากุ้ยนั้นถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้เห็นทั้งสองก่อนจะเอ่ยดุๆ " ทำไมช้าเช่นนี้ ! บ่อหยินหยางนั้นอันตรายอย่างมาก ทำไมพวกเจ้าทั้งสองถึงได้ดำลงไปลึกนัก ? "
หลี่ฉีเย่อมยิ้ม " ผู้นำนิกายอย่าได้กังวล เพียงแค่บ่อหยินหยางยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าพวกเรา " จากนั้นเขาก็หยิบหญ้าราชาหยินหยางอมตะออกมา " พวกเราจับหญ้าราชาได้ ข้าอย่างจะรู้ว่าผู้คุ้มกันทั้งสองจับหญ้าราชาได้หรือไม่ ? "
" หญ้าราชาหยินหยางอมตะ ! " เต๋าเบ่ากุ้ยอุทานออกมาหลังจากเห็นหญ้าในมือของหลี่ฉีเย่
เหล่าผู้อาวุโสและผู้คุ้มกันล้วนมายืนดูรอบๆ แม้แต่สองผู้คุ้มกันที่เป็นคู่แข่งก็ยังมาดูหญ้าราชาในมือหลี่ฉีเย่ หนึ่งในพวกเขาอุทาน " มันเป็นหญ้าราชาจริงๆ ! "
ผู้อาวุโสคนหนึ่งเอ่ย " พวกเราไม่สามารถจับหญ้าราชามาได้กว่าสามร้อยปีแล้ว พวกเจ้าจับมันได้อย่างไร ? นี้มันไม่น่าเชื่อ "
การแสดงออกของผู้อาวุโสหลินกลายเป็นน่าเกลียดเมื่อเห็นหลี่ฉีเย่จับหญ้าราชาได้ ชัยชนะของหลี่ฉีเย่ได้รับการยืนยันจากหญ้าราชาในมือ แม้ว่าฝั่งของพวกเขาจะจับหญ้าอมตะได้แต่มันก็ยังไม่เทียบเท่ากับหญ้าราชา
" รอบนี้ใครชนะ ? " หลี่ฉีเย่มองยังผู้อาวุโสและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เหล่าผู้อาวุโสเหลือบมองหน้ากันและกัน แม้ว่าพวกเขานั้นจะไม่เต็มใจแต่พวกเขาก็เป็นเชื้อสายจักรพรรดิและต้องยอมรับว่าหลี่ฉีเย่ชนะรอบนี้
" หลี่ฉีเย่ผ่านการทดสอบที่สอง ! " ในตอนนั้นเต๋าเบ่ากุ้ยประกาศ
หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างใจเย็น " ในเมื่อข้าประสบความสำเร็จมาสองการทดสอบแล้ว เช่นนั้นคงไม่มีการทดสอบที่สาม ? แต่หากทางนิกายต้องการทดสอบลูกเขยคนนี้ ข้าก็ยินดีที่จะรับ ข้าเชื่อว่าจะไม่มีอะไรมาแยกพวกเราทั้งสองได้ใช่ไหม อวิ๋นจู ? "
หลานอวิ๋นจูรู้ว่าสารเลวนี้ตั้งใจพูด นางจึงจ้องเขาอย่างโกรธ
แม้ว่าผู้อาวุโสและศิษย์ของนิกายจะไม่มีความสุขแต่พวกเขาจะทำอะไรได้ ? ทุกข้อกำหนดล้วนถูกตัดสินโดยพวกเขาตอนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
หลี่ฉีเย่กลับไปพร้อมกับลู่ไป๋ฉิว ขณะที่หลานอวิ๋นจูกลับไปยังรายงานกับเต๋าเบ่ากุ้ย
หลังจากกลับมาถึงที่พัก หลี่ฉีเย่เรียกลู่ไป๋ฉิวเข้ามาก่อนจะมอบหมวกหลิวทองคำให้กับนางและเอ่ย " เจ้านั้นติดตามข้ามาหลายวันแล้วอีกทั้งยังทำหน้าที่ได้ดี ดังนั้นข้าจึงมอบสมบัตินี้เป็นรางวัลให้เจ้า "
" นี้เป็นสมบัติแบบใด ? " ลู่ไป๋ฉิวเอ่ยด้วยอารมณ์ขณะมองหมวกนี้ ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม แต่รูปลักษณ์ของมันนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าประทับใจ
หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม " นี้คือหมวกหลิวทองคำ มันสร้างมาจากิ่งของต้นหลิวทองคำศักดิ์สิทธิ์ มันถูกสร้างขึ้นมาโดยธรรมชาติ ของนี้นับได้ว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้ามองว่ามันเป็นอาวุธมันจะเป็นอาวุธ หากเจ้ามองมันเป็นคัมภีร์มันก็จะเป็นคัมภีร์ หากเจ้าคิดว่ามันเป็นสุดยอดคู่มือมันก็เป็นสุดยอดคู่มือ "
" สิ่งนี้มัน...หรือว่ามันจะเต็มไปด้วยอำนาจน่าอัศจรรย์ ? " ลู่ไป๋ฉิวถามอย่างตกตะลึง หากตามคำอธิบายของหลี่ฉีเย่ นี้อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นสมบัติศักดิ์ศิทธิ์
หลี่ฉีเย่พยักหน้าและเอ่ย " ถูกต้อง ! สิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งของที่มีชิ้นเดียวในโลกและข้ามอบมันให้กับเจ้า สำหรับประโยชต์นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าว่าจะได้รับจากมันมากแค่ไหน จำไว้ว่ามีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ศึกษาคัมภีร์สูงสุดนี้ได้ "
" นี้มัน..." ลู่ไป๋ฉิวลังเลขณะถือหมกวทองคำไว้ในมือ สมบัติชิ้นนี้นั้นมีค่าอย่างมากและถูกเรียกว่าสมบัติศักดิ์ศิทธิ์ ลู่ไป๋ฉิวนั้นเป็นเพียงขุนนางพื้นที่แน่นอนว่านางไม่มีทางสัมผัสกับของเหล่านี้ได้
" รับไว้เถอะ " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย " เจ้าได้รับมันแล้ว ข้าบอกแล้วว่าจะมอบการสร้างใหม่ให้เจ้า และข้าจะไม่กลับคำพูด "
ลู่ไป๋ฉิวสงบลงก่อนจะโค้งคำนับหลี่ฉีเย่และเอ่ย " ขอบคุณนายน้อย " นอกเหนือจากความจริงใจแล้วนางรู้สึกมีความสุขอย่างมาก
* * * * *
" ด้านล่างของบ่อหยินหยาง ? ความลับของบ่อหยินหยาง ! " อีกด้านหนึ่งในนิกายพันแม่น้ำหวน เต๋าเบ่ากุ้ยตกตะลึงหลังจากฟังรายงานของหลานอวิ๋นจู " ต้นหลิวทองคำศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน ! "
หลานอวิ๋นจูมองดูอาจารย์ของนางและเอ่ยถาม " ท่านอาจารย์ นั้นเป็นต้นไม้ศักดิ์สิททิ์แบบใด ? " นางนั้นเห็นมันด้วยสายตาตัวเองแต่ไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งใดได้
ควรจะรู้ว่าหลานอวิ๋นจูนั้นมีพรสวรรค์คู่เซียน นางนั้นเป็นปีศาจในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงแต่ในดิแดนเมฆเหิน นางนั้นไม่ด้อยกว่าอัจฉริยะคนใด แต่นางก็ยังไม่สามารถความลึกซึ้งของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้
เต๋าเบ่ากุ้ยครุนคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย " ต้นหลิวศักดิ์สิทธิ์...ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดที่แน่นอนมีบันทึกไม่กี่เล่มที่บอกไว้ มันกล่าวว่านี้เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างโดยสวรรค์ ผู้คนกล่าวว่ามันทรงอำนาจอย่างมากและมีข่าวลือว่าภายในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์นั้นต้นบรรพชนผีน่าเกรงขามที่สุด แต่ลองลงมาก็เป็นต้นหลิวศักดิ์สิทธิ์ "
" ต้นบรรพชนผี ? " หลานอวิ๋นจูจำได้ว่าหลี่ฉีเย่เคยกล่าวถึงสิ่งนี้
เต๋าเบ่ากุ้ยพยักหน้าและเอ่ย " ต้นบรรพชนผีนั้นมีเพียงในตำนาน ไม่มีใครเชื่อว่ามันมีตันตนอยู่จริง เผ่าพันธ์ผีจำนวนมากในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ปฏิเสธการมีอยู่ของมัน รวมถึงในดินแดนบรรพชนของพวกเขา สุดท้ายผู้คนก็คิดว่ามันเป้นเพียงเรื่องเล่า "
หลังจากได้ยินเรื่องราวของต้นบรรพชนผี หลานอวิ๋นจูรีบเอ่ยถาม " หรือต้นบรรพชนผีนี้จะมีความสำคัญมาก ? "
เต๋าเบ่ากุ้ยตอบอย่างจริงจัง " นี้ยังคงเป็นความลับ มีข่าวลือว่าต้นไม้นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี หากมันเป็นจริงต้นไม้นี้ก็เป็นรากฐานของโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่านี้เป็นเพียงคำบอกล่าและไม่มีใครเคยเห็นมันมาก่อน "
" ทว่าต้นไม้ศักดิ์ศิทธิ์และวิหารทองคำนั้นเป็นพื้นฐานของนิกายเรา นิกายพันแม่น้ำหวนนั้นจำเป็นต้องใช้อำนาจของต้นไม้ศักดิ์ศิทธิ์และวิหารทองคำ "
หลานอวิ๋นจูนั้นต้องการจะเอ่ยบางอย่างแต่นางก็เงียบแทน นางนั้นไม่เอ่ยความจริงที่ว่าหลี่ฉีเย่ต้องการนำบางอย่างจากวิหารทองคำออกมา หลังจากตัดสินใจนางก็กลายเป็นหงุดหงิดที่เลือกช่วยเหลือหลี่ฉีเย่
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น