18 สิงหาคม 2560

ตอนที่ 267 จารึกเหมันต์สวรรค์

หลี่ฉีเย่ถือไม้เท้าและเดินออกมา ก่อนจะเอ่ยกับพี่น้องตะกูลซือ " พวกเรากลับกันเถอะ "

เขานั้นไม่ต้องการสร้างความสนใจมากเกินไปหลังจากที่เขาได้ไม้เท้ามา ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกเขานั้นเริ่มเดินทางออกมา ก่อนมีกลุ่มคนมาขว้างเส้นทางของพวกเขาก่อนจะประตูราชสีห์คำราม

ดอกไม้บานจากสวรรค์นั้นตกลงมาจากฟ้าพร้อมด้วยเสียงสวดอมตะ กลุ่มของสาวงามเดินลงมาจากท้องนภาพร้อมด้วยดอกไม้น้ำแข็งที่บานใต้ฝ่าเท้า จากนั้นไม่นานปิงหยู่เซี่ยก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

การปรากฏตัวอย่างกระทันหันของกลุ่มลูกหลานจากตำหนักขนนกเหมันต์นั้นทำให้กลุ่มของซือเสี่ยวเตี๋ยตกตะลึง ซื่อคงโถวเทียนสูญเสียความสงบของเขาและเอ่ย " นี้อยากจะรับประทานหญิงสาวทั้งหมดตรงหน้า "

ซือเสี่ยวเต๋าและซือเสี่ยวเตี๋ยนั้นกลายเป็นระวังตัวมากขึ้นเพราะตำหนักขนนกเหมันต์นั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่ประตูราชสีห์คำรามนั้นไม่สามารต่อกรได้

" พวกเราทั้งสองควรจะพูดคุยกันสักเล็กน้อย ? " ปิงหยู่เซี่ยนั้นเดินออกมาด้านหน้าก่อนจะจ้องมองหลี่ฉีเย่พร้อมด้วยรอยยิ้ม

หลี่ฉีเย่หรี่ตาของเขาและมองปิงหยู่เซี่ยก่อนจะอมยิ้มและเอ่ย " พวกเราสามารถพูดคุยกันได้ สิ่งที่ข้าชอบก็คือการพูดคุยกับสาวงามแบบเข่าชนเข่า "

" ดูซิ แม่นางซือโปรดระวังให้มาก ผู้ชายท่านนั้นค่อนข้างเจ้าชู้ " ปิงหยู่เซี่ยยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะเอ่ยกับซือเสี่ยวเตี๋ย " ทำไมไม่มาติดตามข้าแทนที่จะตามเจ้าคนไร้หัวใจนี้ ? "

" เขาไม่ใช่ผู้ชายคนของข้า ! " ซือเสี่ยวเตี่ยนั้นเอ่ยอย่างขุ่นเคือง " ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา ! "

หลี่ฉีเย่ยังคงอยู่ในอาการสงบและโบกมือของเขาอย่างไม่ใส่ใจ " สาวน้อย เจ้าอย่าไปรบกวนคนอื่น หากต้องการจะพูดคุยเช่นนั้นก็รีบ ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่เสียเวลากับเจ้า "

การแสดงออกที่หยิ่งยโสของหลี่ฉีเย่ทำให้ซือเสี่ยวเต๋าสูดลมหายใจเข้าลึก นี้คือลูกหลานของตำหนักขนนกเหมันต์ - ขุมอำนาจขนาดใหญ่ในอนาคต มันมีผู้เยาว์จำนวนไม่มากที่จะกล้าพูดจาหยิ่งยโสต่อหน้าปิงหยุ่เซี่ยในดินแดนร้อยเมือง

" ดี เช่นนั้นพวกเราก็มาคุยกัน " ปิงหยู่เซี่ยยิ้ม ในเวลาเดียวกันศิษย์จากตำหนักขนนกเหมันต์ก็หยิบสมบัติที่พักออกมา ภายในพริบตาศาลาก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน

ในเวลานี้ กลุ่มศิษย์ของตำหนักขนนกเหมันต์นั้นนำกลุ่มของซือเสี่ยวเตี๋ยจากไป ขณะที่หลี่ฉีเย่และปิงหยู่เซี่ยเดินเข้ามาด้านใน

มีเพียงพวกเขาสองอยู่ภายในตัวศาลา ปิงหยู่เซี่ยนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับเสื้อผ้าบุรุษและเอ่ยถามหลี่ฉีเย่ " เจ้านั้นมาจากไหน ? "

" ศิษย์นิกายกำยานโบราณ หลี่ฉีเย่ " หลี่ฉีเย่นั้นตอบด้วยรอยยิ้มโดยไม่ได้ลบซ่อนใดๆ

สายตาของปิงหยู่เซี่ยนั้นหรี่ลงมองหลี่ฉีเย่ก่อนจะเอ่ย " ไม่นานมานี่ ข้าได้ยินเกี่ยวกับเจ้ามา พวกเขาบอกว่าเจ้านั้นเป็นปีศาจน้อยที่หยิ่งยโสที่สุดในดินแดนตอนกลาง ! "

" ดูเหมือนว่าตำหนักขนนกเหมันต์ของเจ้าจะสนใจดินแดนตอนกลางไม่น้อยทีเดียว อ่า เจ้าพอมีความฉลาดอยู่บ้าง " หลี่ฉีเย่นั้นไม่แปลกใจแม้แต่น้อย

ความจริง ดินแดนตอนกลางนั้นห่างไกลอย่างมากกับดินแดนร้อยเมืองทางตะวันออก นิกายที่มีความสามารถอยู่บ้างอาจจะกลายเป็นนิกายที่ทรงพลังในดินแดนร้อยเมือง

ปิงหยู่เซี่ยหัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะของนางนั้นเต็มไปด้วยความงดงามเจ็ดส่วนและความสดใสอีกสามส่วน เป็นการรวมกันของความทรงเสน่ห์ การหัวเราะเช่นนี้นั้นเพิ่มเสน่ห์ของนางอย่างมาก

หลี่ฉีเย่มองไปยังรูปลักษณที่งดงามของนางก่อนจะส่ายหัว " สาวน้อยเช่นเจ้ากลับไม่ได้เรียนรู้สิ่งใดเลยจากผู้ก่อตั้งของเจ้าที่ชอบแต่งตัวเป็นบุรุษ นี้มันไม่แปลดเกินไปรึ ? "

ปิงหยู่เซี่ยนั้นหยุดหัวเราะก่อนที่สายตาของนางจะกลายเป็นจริงจัง " เช่นนั้นเจ้าคงรู้จักผู้ก่อตั้งของพวกเราเป็นอย่างดี "

ผู้ก่อตั้งของตำหนักขนนกเหมันต์ จักรพรรดิอมตะปิงหยุน นางนั้นเป็นตัวตนอมตะที่แบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ - สูงส่งอย่างไร้ที่ติ

เขานั้นอดไม่ได้ที่จะยิ้มหลังจากคิดถึงเรื่องของจักรพรรดิอมตะปิงหยุน จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและเอ่ย " ไม่มากนัก แต่ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับจักรพรรดิอมตะปิงหยู่มาหนึ่งหรือสองอย่าง ข้าได้ยินว่านางนั้นเป็นผู้หญิงที่หยิ่งยโสและเย็นชาอย่างมาก ! ถึงแม้ว่านางจะแต่งตัวเป็นบุรุษแต่เสน่ห์ของนางนั้นไม่ได้ลดลง มันอาจจะเหมือนกับเจ้า ช่างหยิ่งยโส ข้าได้ยินว่าสิ่งนี้ทำให้คนอื่นอึดอีดมาก ! " บางทีหลี่ฉีเย่อาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าวิจารณ์จักรพรรดิอมตะปิงหยู่เช่นนี้

" คำพูดที่อวดดี ! " สายตาของปิงหยู่เซี่ยกลายเป็นดุร้ายขณะจ้องมองหลี่ฉีเย่ จากนั้นนางเอ่ย " ข้าไม่ได้มาหาเจ้าเพื่อคุยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ พวกควรจะคุยถึงเรื่องจารึกเหมันต์สวรรค์ ! "

" จารึกเหมันต์สวรรค์ ? " หลี่ฉีเย่นั้นระเบิดเสียงหัวเราะและส่ายหัว " ดูเหมือนว่านอกจากผู้หญิงคนนั้น จักรพรรดิอมตะปิงหยู่แล้ว คนอื่นที่เหลือจะไม่เข้าใจมัน "

" กล่าวอีกอย่างก็คือ เจ้านั้นรู้จักกับจารึกเหมันต์สวรรค์เป็นอย่างดี ! " ดวงตาของปิงหยู่เซี่ยกลายเป็นดุร้ายและคำพูดของนางเต็มไปด้วยอำนาจ

หลี่ฉีเย่ในอีกมุมหนึ่ง เขานั้นกำลังยิ้มอย่างผ่อนคล้ายขณะมองสีหน้าที่เคร่งเครียดของปิงหยู่เซี่ยและเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ " มันไม่คุ้มค่าแก่การกล่าวถึง สิ่งของนั้นแต่เดิมไม่ได้เป็นของตำหนักขนนกเหมันต์ แม้ว่าผู้ก่อตั้งของเจ้า จักรพรรดิอมตะปิงหยู่นั้นจะเป็นคนที่หยิ่งยโส แต่นางไม่ใช่คนโง่ วิธีการที่นางใช้นั้นยังไม่เพียงพอดังนั้นนางจะย้ายมันไปด้านนอก "

" นี้เจ้าเป็นใครกันแน่ ! " สายตาของนางทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อมองหลี่ฉีเย่

หลี่ฉีเย่นั้นยังคงอยู่ในการนิ่งสงบและเอ่ยช้าๆ " ศิษย์ของนิกายกำยานโบราณ ความจริงข้านั้นเป็นใครไม่สำคัญ เรื่องสำคัญก็คือจารึกเหมันต์สวรรค์ เจ้าไม่คิดเช่นนั้นรึ ? "

" เจ้าคงรู้จักรจารึกเหมันต์สวรรค์เป็นอย่างดีจริงๆ ! " ปิงหยู่เซี่ยแค่นเสียงเอ่ย

" นี้เป็นผลมาจากการอ่านหนังสือจำนวนมาก สาวน้อย อ่า เจ้าควรจะอยู่บ้านและอ่านหนังสือบ้าง อ่านให้มากขึ้นนี้จะทำให้เจ้ารุ้เยอะขึ้น ! บางทีเจ้าอาจจะพบคำตอบที่เจ้าหาอยู่ "

" ข้าหวังจะได้ยินคำตอบจากปากเจ้ามากกว่า " ปิงหยู่เซี่ยเอ่ย ตอนนี้ท่าทางสบายๆของนางได้หายไป แต่เปลี่ยนตัวตนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเชื้อสายจักรพรรดิอมตะ สุดท้ายนางก็ยังเป็นลูกหลานของจักรพรรดิอมตะ น่ากลัวอย่างแท้จริง

กลิ่นอายของนางนั้นไม่มีผลต่อหลี่ฉีเย่ เขายังคงเอ่ยอย่างสบายอารมณ์ " ทำไมข้าถึงต้องบอกคำตอบกับเจ้า ? "

เจตนาฆ่านั้นปรากฏในสายตาของนาง บรรยากาศโดยรอบเริ่มกลายเป็นน้ำแข็งและซึมเข้าไปในกระดูก นางนั้นเอ่ย " แน่นอนว่าเจ้าคงไม่ต้องการให้ข้าเชิญเจ้ากลับไปยังตำหนักขนนกเหมัต์ในฐานะแขก "

เผชิญกับสายตาของนาง หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะและส่ายหัว " สาวน้อย ความสามารถของเจ้านั้นจัดว่าดี ทว่า อย่ามาหยิ่งยโสต่อหน้าข้า หากเจ้ากล้าแสดงตัวตนราวกับว่าเป็นจักรพรรดิอมตะปิงหยู่ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะจับเจ้าและนำเจ้ามาเป็นสาวอุ่นเตียง ! "

ในฐานะผู้สืบทอดของตำหนักขนนกเหมัตน์ อำนาจของปิงหยู่เซี่ยนั้นยากเกินหยั่งถึง แต่นางนั้นสตรีแต่มักจะใส่เสื้อผ้าของบุรุษเสมอโดยไม่สนใจสายตาชาวโลก ทว่านางก็ยังมีชื่อเสียงอย่างมากในดินแดนร้อยเมืองและคนอื่นจะให้เกียรตินางเสมอ

แต่วันนี้ ปีศาจน้อยด้านหน้านั้นราวกับไม่รูัถึงความคุกคามของนาง เขายังคงสงบราวกับว่าเขานั้นกุมชัยชนะไว้ในมืออยู่แล้ว

" มันดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความมั่นใจที่ดี " ปิงหยู่เซี่ยเอ่ยช้าๆ มันเป็นเรื่องยากที่จะมีคนเอ่ยเรื่องเช่นนี้ต่อหน้านาง กระทั้งลูกหลานของอาณาจักรโบราณก็ยังไม่กล้าหยิ่งยโสต่อหน้านางเช่นนี้

หลี่ฉีเย่เหลือบมองนางก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " เพราะว่าข้าคือหลี่ฉีเย่ " นี้อาจจะเป็นคำพูดที่สามัญแต่กลิ่นอายของมันนั้นเต็มไปด้วยความสง่าและเจาะผ่านได้ทั่วชั้นฟ้า

เพราะว่าข้าคือหลี่ฉีเย่ ! - เพียงแค่ประโยคเดียวแต่อธิบายตัวตนของเขาได้ทั้งหมด ความเชื่อมั่นใจเช่นนี้เป็นของคนเพียงผู้เดียวนั้นคือผู้ปกครองเก้าชั้นฟ้าและสิบแผ่นดิน !

" ไม่เลวเลย ประโยคที่ว่า เพราะข้านั้นคือหลี่ฉีเย่ ไม่เลวจริงๆ " หลังจากนั้น ปิงหยู่เซี่ยก็พูดและระเบิดเสียงหัวเราะขณะที่มันเต็มไปด้วยเสน่ห์

หลังจากกลับสู่ความสงบ ปิงหยู่เซี่ยก็ถาม " ข้าต้องทำอย่างถึงจะโน้มน้าวเจ้าให้พูดถึงจารึกเหมันต์สวรรค์ได้ ? ให้ข้าหาผู้หญิงให้เจ้าสักคนเป็นอย่างไร ? ภายในดินแดนร้อยเมืองทางตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงของอาณาจักรโบราณ เทพธิดาของนิกายทรงอำนาจ หรือลูกสาวของจ้าวประตูศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ - ข้านั้นรู้จักพวกเขาเล็กน้อย เจ้าต้องการให้ข้าแนะนำพวกเขาให้หรือไม่ ? "

หลี่ฉีเย่นั้นอมยิ้มก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " ผู้หญิงที่สามารถดึงดูดความสนใจของข้าได้นั้นไม่ได้อยู่รอบตัวเจ้า แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะไม่เลว แต่พวกเขาก็ยังคาดคุณสมบัติ เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร หากเจ้ามาอยู่เคียงข้างข้าในฐานะสาวใช้ ข้ายินดีจะบอกความลับของจารึกเหมันต์สวรรค์ในตำหนักขนนกเหมันต์ทั้งหมด ! ความจริงที่ผู้ก่อตั้งของเจ้านั้นหยิ่งยโสไม่สามารถปฏิเสธได้ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ทำเพียงแค่นำจารึกเหมันต์สวรรค์กลับมาในปีนั้น..."

" ทว่าผู้ก่อตั้งของเจ้านั้นก็ยังโดดเด่นและครอบครองสติปัญญาที่น่ากลัว ในฐานะกบที่อยู่ก้นบ่อ นางนั้นสามารถเข้าใจภาพรวมทั้งหมดได้แม้ว่านางจะพึงเริ่มต้น นางนั้นสามารถเข้าใจความลึกลับพื้นฐานได้ทั้งหมดและกลายเป็นจักรพรรดิอมตะ ! หากเจ้ามาอยู่เคียงข้างข้าและเป็นสาวใช้ ข้าจะให้เจ้าได้รู้ต้นกำเนิดของจารึกเหมันต์สวรรค์ ในตอนนั้นเจตจำนงของเจ้าจะเข้าใจจารึกเหมันต์สวรรค์ได้ไม่ยาก " พูดเสร็จหลี่ฉีเย่ก็เหลือบมองปิงหยู่เซี่ย

ปิงหยู่เซี่ยทันใดนั้นก็สั่นสะท้านและจ้องมองหลี่ฉีเย่ " เจ้ารู้จักผู้ก่อตั้งของพวกเรา..."

" ข้านั้นปราถนาจะพบนาง ทว่าน่าเสียดาย ข้านั้นเกิดช้าไปหลายล้านปี ไม่เช่นนั้นด้วยความหล่อเหล่าและสง่างามของข้าและได้เกิดมาในยุคเดียวกับผู้ก่อตั้งของเจ้า ข้าอาจจะเป็นสหายที่ดีที่สุดของนาง " หลี่ฉีเย่หัวเราะและส่ายหัว

สิ่งที่หลี่ฉีเย่กล่าวนั้นเป็นความจริงขึ้นและความเท็จครึ่งเพื่อไม่ให้คนอื่นสามารถจับพิรุธได้

" หยุดหลงตัวเองได้แล้ว ! เจ้าคิดรึว่าปีศาจน้อยเช่นเจ้าจะสร้างความประทับใจให้กับท่านผู้ก่อตั้งได้ ? เมื่อผู้ก่อตั้งของพวกเรานั้นยังมีชีวิตอยู่ แม้แต่ดอกไม้และดวงจันทร์ก็ยังต้องหลบให้นาง การปรากฏตัวของนางทำให้โลกทั้งโลกนั้นราวกับเป็นสิ่งสกปรก ! เกี่ยวกับปีศาจน้อยเช่นเจ้า ข้าเกรงวาผู้ก่อตั้งของข้าจะไม่เพียงแม้แต่เหลือบมอง " ปิงหยู่เซี่ยมองไปที่หลี่ฉีเยก่อนจะส่ายหัว

หลี่ฉีเย่นั้นเพียงยิ้มและไม่เอ่ยสิ่งใด

" เจ้าต้องการอะไรก่อนที่จะพูดถึงเรื่องจารึกเหมันต์สวรรค์ ? " ช่วงเวลาต่อมา ปิงหยู่เซี่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น

หลี่ฉีเย่นั้นอดไม่ได้ที่จะยิ้มและมองไปยังปิงหยู่เซี่ยที่สวมเสื้อบุรุษ แม้ว่าปิงหยู่เซี่ยและสารเลวน้อยปิงหยู่นั้นจะเกิดในยุคที่ต่างกัน เสน่ห์ของพวกนางนั้นยังคงเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งตัวเป็นบุรุษของพวกนาง ทว่าปิงหยู่เซี่ยในตอนนี้ ไม่ได้มีความสามารถที่ดีเท่ากับจักรพรรดิอมตะปิงหยู่ในปีนั้น ปิงหยู่นั้นเป็นสาวน้อยที่หยิ่งยโสเป็นอย่างมาก แต่กล่าวตามจริงนางนั้นมีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้

" ลืมเกี่ยวกับมันซะ ข้านั้นเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้คน นี้เป็นเพราะข้านั้นอ่านหนังสือมามากและมีความรู้อยู่บ้าง ผลของมันก็คือการทำให้ข้ามีความรู้ที่ดี ถูกต้องหรือไม่ ? " หลี่ฉีเย่ยิ้มก่อนจะเอ่ยต่อ " ข้าจะให้คำแนะนำสักเล็กน้อย อย่าได้เสียเวลาแกะข้อความในจารึก ความหมายของคำในจารึกนั้นล้วนไม่มีความหมาย ! "

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

#ผู้ก่อตั้งของเจ้านะรึ หึหึ อาจจะโดนพี่ฉีเก็บมาแล้วว >"<









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น