หลังจากสังเกตอย่างระมัดระวังหลี่ฉีเย่ก็ดึงกระบี่ออกมาจากฝัก
" เช้งง " ตัวกระบี่เมื่อมันถูกดึงออกมามันก็เต็มไปด้วยพลังงานเต๋าที่สามารถเจาะผ่านสวรรค์ พริบตาที่ตัวกระบี่ถูกชัดออกความศักดิ์สิทธิ์ของกระบี่มาพร้อมกับพลังงานทรงพลังที่น่ากลัวและทำให้ผู้คนหนาวเย็นยามจ้องไปที่มันโดยตรง
เห็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ที่ติดอยู่ตรงหน้า ตวามตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในใจของกลุ่มหลี่ซ่วงเหยียน นี้คือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ - กระบี่ที่น่ากลัวและหาใดเปรียบไม่ได้ !
" ตูม ! " ขณะที่หลี่ฉีเย่ยังคงมองกระบี่อย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นเสียงและเบิดและกลิ่นอายน่ากลัวก็ปรากฏไปทั่วท้องฟ้า
" ตาแก่หวู่..." บรรพชนบาเซียนเอ่ยอย่างเย็นชา " เจ้าคิดว่าข้าจะรังแกลูกหลานของเจ้าหากเจ้าไม่มาด้วยรึ ? "
ทว่าพริบตานั้น กระบี่ที่สามารถกวาดผ่านท้องฟ้าพร้อมด้วยกลิ่นอายทรงพลังได้ถูกตวัดลงมา รัศมีแสงของกระบี่กลายเป็นกลุ่มพลังที่น่ากลัวและพุ่งไปยังราชวัง !
" ตาแก่หวู่เจ้าต้องการจะสู้ ? " เห็นลำแสงกระบี่ที่กำลังมาถึง บรรชพนราชสีห์บาเซียนแค่นเสียงเย็นชาและชกหมัดที่ทรงพลังพอจะบดขยี้สวรรค์ออกไป
" ตาแก่ราชสีห์ ลองชิมกระบี่ของข้า ! " เทพยุทธคำรามลั่นสุดท้ายเขาก็ตามาถึง เงาสายหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วผ่านท้องฟ้า เขาสุดท้ายก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติและติดตามมาถึงสถานที่แห่งนี้
" ไป ! " ท่ามกลางการปะทะกันของสองตัวตนที่ยิ่งใหญ่ หลี่ฉีเย่ตะโกนภายในพริบตาหนุนเฟินก็แบกทุกคนและเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุดของเขา จากนั้นหนุนเฟินก็กลายเป็นเส้นแสงและพุ่งออกจากเขตแดนของบรรพชนราชสีห์ ! ความเร็วนี้มันน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก !
หอยทากสวรรค์นั้นเป็นตัวตนที่น่าเหลือเชื่อและมีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์โดยเฉพาะหลังจากที่หนุนเฟินรูปแบบศักดิ์สิทธิ์ที่หลี่ฉีเย่มอบให้ เขานั้นก็ใกล้เคียงกับตัวตนอมตะมากยิ่งขึ้น
" ตาแก่ราชสีห์ เจ้ากล้าที่จะขโมยแปดกระบี่สะบั้นสวรรค์ของข้า ! วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้า ! " เสียงคำรามของเทพยุทธดังมาจากระยะไกล
หลังจากได้ยิน มันทำให้บรรพชนราชสีห์บาเซียนกลายเป็นโกรธและเอ่ย " เลิกพล่ามสักที ข้าไม่เคยต้องการขยะชิ้นนั้นแม้แต่น้อย ! "
" ตูม ! ตูม ! ตูม ! " ตอนนั้นเองบรรพชนราชสีห์และเทพยุทธก็เริ่มต้นการต่อสู้อย่างแท้จริง !
พวกเขานั้นหลบหนีออกมาได้ทัน และหลี่ฉีเย่ก็ยังออกคำสั่งให้หนุนเฟินมุ่งหน้าไปยังดินแดนลึกลับ แม้แต่หลี่ซ่วงหยียนก็ยังถามด้วยความกลัว " พวกเราไม่ได้จะออกจากหลุมฝังศพบรรพกาล ? "
" สายเกินไป มันมีบางอย่างที่น่ากลัวกว่าพวกเขาอยู่ พวกเราจะไปที่นั้น " หลี่ฉีเย่นั้นตะโกนขณะที่เขานั้นเก็บกระบี่ทรราชย์อมตะลงไปบนกล่องโบราณ
" ตาแก่หวู่ เจ้ากล้าที่จะหลอกเอากระบี่จากข้า ! " ทันใดนั้นบรรพชนราชสีห์บาเซียนก็ขาดการเชื่อมต่อกับกระบี่ของเขา การแสดงออกของเขากลายเป็นบ้าคลั่งและโกรธเกรี้ยว
" หยุดผายลมซะ ข้าไม่เคยสนใจกระบี่ของเจ้า ! " เทพยุทธคำรามอย่างเย็นชาและเอ่ย " ตาแก่ราชสีห์คืนตำราของข้ามา ! "
ระหว่างการต่อสู้ที่กำลังรุนแรงอยู่ กลุ่มของหลี่ฉีเย่ก็ได้มุ่งหน้าออกไปยังดินแดนที่ห่างไกลออกไปด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อของหนุนเฟิน ทว่าระยะทางเพียงแค่นี้สำหรับบรรพชนราชสีห์บาเซียนแล้วยังไม่ไกลพอ !
ทันใดนั้นเองก็ปรากฏเป็นภูเขาขนาดใหญ่ขว้างเบื่องหน้าของหลี่ฉีเย่ ความกว้างของภูเขานี้นั้นยากเกินจะอธิบาย อาจจะกล่าวได้ว่ามันสูงทะลุยอดฟ้าและกว้างไปเกือบสุดดินแดนหลุมฝังศพ มันไม่แม้แต่จะจินตนาการได้ว่ายอดของภูเขานี้นั้นสูงเท่าใด
ยอดภูเขาสูงนี้เจาะทองฟ้าขึ้นไปเป็นเส้นตรงราวกับจะพุ่งไปยังจุดสูงสุดของโลก สุดท้ายไม่มีใครเห็นยอดของมันขณะมองขึ้นไป มันอยู่กึ่งกลางระหว่างสวรรค์และปฐพี ราวกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ล้อมรอบพวกมัน สิ่งมีชีวิตใดก็ตามล้วนรู้สึกต่ำต้อยเมื่อพวกเขายืนอยู่เบื้องหน้าภูเขาลูกนี้
" เร็วขึ้นอีก ! " หลี่ฉีเย่ตะโกนบอกหนุนเฟิน พริบตานั้นหนุนเฟินก็พุ่งจะทานขึ้นไปยังภูเขาราวกับจะข้ามมันออกไป
" ปัง ! ปัง ! ปัง ! " วินาทีต่อมามีเส้นแสงปรากฏ พร้อมกับกลิ่นอายขนาดใหญ่จำนวนสองจุดพุ่งมายังทิศทางของพวกเขา
" สารเลวน้อยเจ้ากล้าที่จะขโมยกระบี่ของข้า " ตอนนี้เสียงคำรามของบรรพชนราชสีห์บาเซียนดังออกมา
จากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงที่ดังราวกับฟ้าผ่าของผู้ก่อตั้งตระกูลหวู่ " สารเลวน้อยเจ้ามาจากที่ใด ถึงกล้าที่จะหลอกลวงว่าเป็นลูกหลานตระกูลหวู่ของข้า ! "
สองฝ่ามือ หนึ่งมาจากบรรพชนราชสีและอีกหนึ่งมาจากเทพยุทธ ทั้งสองฝ่ามือนี้พุ่งผ่านสวรรค์และปฐพีตรงมายังกลุ่มของหลี่ฉีเย่
" ตูม ! " ทันใดนั้นเองหนุนเฟินที่กำลังพุ่งเข้าไปยังภูเขาสูง ก็ถูกทำให้ถอยกลับ มันราวกับภูเขานี้นั้นมันถูกปกคลุมไปด้วยแรงกดดันที่เกินต้านทาน
" ในป่าไผ่ม่วง ลูกศรนั้นสามารถทะลุสวรรค์ ! " ตอนนี้หลี่ฉีเย่ตะโกนออกมาและเวลาเดียวกันเขาก็สั่งหนุนเฟิน " ไป ! "
หนุนเฟินที่กำลังลังเลนั้นกลายเป็นพุ่งไปยังภูเขาอย่างบ้าคลั่ง " ตูม " ภายในพริบตาหนุนเฟินก็สามารถพาทั้งกลุ่มเข้าไปบนยอดเขาสูงขณะที่สองฝ่ามือที่มีอำนาจเหนือล้อ ถูกดันให้ถอยกลังไป !
สุดท้ายพวกเขาก็เข้ามาในภูเขาได้ หนุนเฟินเกือบจะทรุดตัวลงกับพื้น หากช้าไปอีกเพียงนิดเดียวพวกเขาแน่นอนว่าจะไม่สามารถหนีจากผู้ก่อตั้งตระกูลหวู่และบรรพชนราชสีห์มาได้ !
ภายในพริบตา เทพยุทธและบรรพชนราชสีห์ก็มาถึง ช่วงเวลาที่ทั้งกลุ่มเห็นพวกเขา พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวไปถึงกระดูก ทั้งสองนั้นเป็นตัวตนในตำนานคนที่กวาดผ่านเก้าชั้นฟ้าและสิบแผ่นดิน ! หากพวกเขาลงมือทั้งกลุ่มทำได้เพียงแค่รอความตาย !
ทว่าเหมือนโชคจะเข้าข้าง เทพยุทธและบรรพชนราชสีห์หยุดอยู่ฝันภูเขาสูงและไม่กล้าที่จะก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว
สุดท้ายเทพยุทธก็โค้งคำนับไปยังภูเขาสูงและเอ่ย " ท่านผู้ปกครอง สารเลวเหล่านี้พร้อมเป็นลูกหลานของข้าและขโมยตำราที่ล้ำค่าไป ได้โปรดให้ข้าลงโทษพวกเขา ! "
ตอนนี้กลุ่มของหลี่ซ่วงเหยียนมองไปยังภูเขาสูง และพวกเขาพึงตระหนักได้ว่ามีโลงศพแขวนอยู่ตรงหน้าผา มันดูเป็นโลงศพที่เรียบง่ายปราศจากความศักดิ์สิทธิ์ ทว่ามันไปโลงศพเดียวที่ถูกแขวนอยู่บนจุดสูงสุดราวกับมันเทพผู้ปกครองโลกด้านล่างทั้งหมด !
สุดท้ายพวกเขาก็เข้าใจได้ว่าเทพยุทธและบรรพชนราชสีห์ หวาดกลัวอะไรก็ตามที่อยู่ภายใต้โลงศพไม้นี้
ทว่าโลงศพไม้ที่แขวนอยู่นั้นไม่ได้ตอบสนองต่อคำกล่าวของเทพยุทธ ราวกับว่ามันรำคาญที่จะตอบ ! เทพยุทธและบรรพชนราชสีห์ไม่มีใครกล้าก้าวเท้าออกจากสถานที่แห่งนี้
เห็นฉากด้านหน้า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของหลี่ซ่วงเหยียนและกลุ่มของหนุนเฟินพวกเขาล้วนหัวใจสั่นสะท้าน เทพยุทธและบรรพชนราชสีห์คือใคร ? ในยุคของจักรพรรดิอมตะตันหลี่ นอกจากจักรพรรดิอมตะตันหลี่แล้วในยุคนั้นไม่มีใครสยบพวกเขาทั้งสองได้ หากพวกเขารวมพลังกันไม่มีใครนอกจากจักรพรรดิอมตะตันหลี่ที่จะหยุดยั้ง ! การรวมพลังของพวกเขาสามารถสังหารเทพและบดขยี้ปีศาจได้อย่างง่ายดาย !
แต่วันนี้แม้ว่าพวกเขาจะมาด้วยกัน พวกเขาก็ยังไม่กล้าจะบุกรุกสถานที่แห่งนี้ ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าตัวตนแบบใดกันที่ดำรงอยู่ภายใต้โลงศพ !
ตัวตนที่ดำรงอยู่ภายในโลงศพไม้นั้นไม่เอ่ยตอบ เทพยุทธและบรรพชนราชสีห์ล้วนไร้ความหวัง ตอนนี้ความโกรธของพวกเขานั้นปรากฏอยู่เต็มสายตาก่อนจะจ้องไปยังกลุ่มของหลี่ฉีเย่
" ปีศาจน้อย เจ้ามาจากที่ใดบนโลกถึงกล้าที่จะแสแสร้งว่าเป็นลูกหลานตระกูลหวู่ของข้า ! " ผู้ก่อตั้งตระกูลหวู่คำรามอย่างเย็นชา
บรรพชนราชสีห์กัดฟันของเขาและเอ่ยอย่างไม่พอใจ " ปีศาจน้อย เจ้ากล้าหลอกลวงเอากระบี่ของข้า เจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ? "
หลี่ฉีเย่ยืนขึ้นอย่างสงบด้านบนเปลือกหอยทากพร้อมทั้งกล่าวอย่างสบายๆ " กระบี่ทรราชอมตะกับตำราแปดกระบี่สะบั้นสวรรค์ พวกมันล้วนเสียเปล่าหากอยู่ในหลุมฝังศพบรรพกาล นี้จะไม่ใช่ความอัปยศหรอกรึ ? พวกเจ้าทั้งสองล้วนเป็นตัวตนที่ท้าทายสวรรค์นั้นยุคนั้น ดังนั้นพวกเจ้าคงจะรู้ได้อย่างชัดเจนว่ากระบี่ทรราชอมตะกับตำราแปดกระบี่สะบั้นสวรรค์นั้นมีต้นกำเนิดเดียวกัน ! การร่วมกันของทั้งสองจะเป็นการโจมตีที่น่ากลัวที่สุด ! "
" ฮ่าฮ่า ดีมากปีศาจน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้เรื่องพวกเราเป็นอย่างดี ! " บรรพชนราชสีห์ที่กำลังโกรธ เริ่มที่จะหัวเราะ
หลี่ฉีเย่ยังยืนอย่างสงบพร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " กล่าวตามจริง การหลอกลวงนี้ดูเหมือนจะไม่ดีสักเล็กน้อย แต่มันจะเป็นผลดีกับพวกเจ้าทั้งสอง "
ตอนนี้หลี่ฉีเย่มองไปที่เทพยุทธและเอ่ย " ตระกูลหวู่นั้นตกต่ำมาทุกยุคทุกสมัย เจ้าไม่สามารถออกจากหลุมฝังศพบรรพกาลได้แม้ว่าเจ้าจะเกิดใหม่ได้ในอีกยุค เจ้าควรจะรู้ว่าลูกหลานตระกูลหวู่ของเจ้านั้นไม่สามารถทำให้ตระกูลหวู่กลับมารุ่งเรืองได้อีก แม้ว่าตระกูลหวู่จะมีบรรชพนเที่ยงธรรม พวกเขาก็ยังไม่ทรงพลังพอที่จะเข้ามาที่นี่ ! วันนี้ข้าจะรับเอาตำราของเจ้าไปและมอบผลตอบแทนที่ดีให้กับตระกูลหวู่ ข้าจะช่วยสายเลือดของตระกูลหวู่ หรือไม่ข้าก็จะทำให้ตระกูลหวู่กลับมารุ่งเรื่องอีกครั้ง "
เทพยุทธมองไปยังหลี่ฉีเย่โดยไม่เอ่ยสิ่งใดเป็นเวลานาน
" สำหรับเจ้า " หลี่ฉีเย่มองไปยังบรรพชนราชสีห์บาเซียนและเอ่ยช้าๆ " เชื้อสายของเจ้าในโลกนั้นล้วนเหลืออยู่น้อยมาก วันนี้เขารับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไป ข้าจะมอบผลตอบแทนที่ดีแก่ลูกหลานของเจ้า หากข้าพบกับลูกหลานของเจ้าในอนาคต ข้าจะทิ้งคำกล่าวบางอย่างให้กับพวกเขาเป็นอย่างไร ? "
บรรพชนราชสีห์บาเซียนมองไปยังหลี่ฉีเย่เป็นเวลานานโดยไม่เอ่ยสิ่งใด มันน่าทึ่งที่เขาไม่บ้าคลั่งหลังจากสูญเสียกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ของเขา
" พวกเจ้าทั้งสองควรกลับไปได้แล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่จะจากเส้นเลือดดำของพวกเจ้ามาไกลขนาดนี้ ! " หลี่ฉีเย่มองอย่างสบายไปยังพวกเขาทั้งก่อนจะเอ่ยเพิ่ม " วันนี้ข้านำสมบัติของพวกเจ้ามา กล่าวตามจริงข้าไม่จำเป็นต้องตอบแทนพวกเจ้าทั้งสอง ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กลโกงเหล่านี้ การจะทำลายเส้นเลือดมังกรดำของพวกเจ้าสำหรับข้าล้วนไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยความเห็นอกเห็นใจของข้าที่เจ้าทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิอมตะตันหลี่ ข้าจะไม่เปลี่ยนแปลงเส้นเลือดมังดำพวกนั้น หากข้าต้องการทำลายเส้นเลือดมังกรดำและชีวิตที่พวกเจ้าสะสมมากว่าล้านปี มันไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ! " หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างไม่แยแส
ทั้งสองเทพยุทธและบรรพชนราชสีห์เงียบเป็นเวลานานโดยไม่เอ่ยสิ่งใด
" กลับไป ข้ารักษาคำพูดเสมอ วันนี้ข้านำสมบัติของพวกเจ้ามา ข้าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกหลานของพวกเจ้าในอนาคต ! " หลี่ฉีเย่สุดท้ายก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม
" ดี ! " เทพยุทธทันใดนั้นก็กระทืบพื้นดินก่อนจะกลายเป็นเส้นแสงและหายไปโดยไม่ลังเล !
บรรพชนราชสีห์รออยู่ชั่วครู่ สุดท้ายเขาก็ขว้างสิ่งของบางอย่างออกไปและตะโกน " อย่าลืมสิ่งที่เจ้าได้เอ่ยในวันนี้ ! " จากนั้นเขาก็หันหลังและพุ่งออกไป !
สิ่งของของบรรพชนราชสีห์นั้นตกอยู่ในมือของหลี่ฉีเย่ มันเป็นกล่องโบราณและไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ด้านใน หลี่ฉีเย่มองมันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเก็บ
เมื่อทั้งสองจากไป กลุ่มของหลี่ซ่วงเหยึยนที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เส้นประสาทของพวกเขาผ่อนคลายจนทำให้พวกเขานั้นลงนั่งไปกองกับพื้น
" มันเป็นการเดินทางที่อันตรายจริงๆ " แม้แต่หนุนเฟินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและเช็ดเหงื่อ พวกเขานั้นพึงจะได้สุดยอดสมบัติ เรื่องราวการเดินทางทั้งหมดนี้จะกลายเป็นตำนาน !
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
#เรามาสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดกันอีกครั้ง สารเลวคนหนึ่งไปขโมยของจากบ้านที่ 1 จากนั้นเขาก็ขโมยของจากบ้านที่ 2 เมื่อถูกเจ้าของบ้านตามมาและจับได้ สารเลวตัวนี้กลับไล่เจ้าของบ้านให้กลับบ้าน ? WTF พี่ฉี !! หัวขโมยโลกไหนมันกล้าทำขนาดนี้ฟะเนี้ยยย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น