เห็นเล้งชานเฟิงใบหน้าแดงก่ำ หลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะกล่าวย้ำคำพูดของเขา " เอาอย่างไรต่อดี ? ไม่ใช่ว่านายน้อยเล้งกล่าวว่าไม่ได้ขาดเงิน ? เช่นนั้นเพียงสิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมคงไม่นับเป็นอันใด มันเพียงแค่เสียเงินเพียงหยิบมือเท่านั้น ! หากนายน้อยเล้งไม่ได้คาดแคลนเงิน เช่นนั้นก็ขอให้ซื้อมัน "
หลี่ฉีเย่ไม่เคยแสดงความเมตตาต่อศัตรูของเขา ใครก็ตามที่กล้าต่อต้านเขา เขาก็พร้อมที่จะเหยียบย้ำพวกมันให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา !
เล้งชานเฟิงนั้นสั่นด้วยความโกรธขณะที่ใบหน้าของเขานั้นกลายเป็นน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เขาได้โอ้อวดไปเป็นจำนวนมาก และตอนนี้มันสายไปแล้วที่จะกลับคำ เล้งชานเฟิงจ้องหลี่ฉีเย่ด้วยใบหน้าแดงก่ำพร้อมทั้งเอ่ยอย่างเย็นชา " แล้วเจ้าเล่าเจ้าสามารถจ่ายมันได้หรือไม ่? ฮึ่ม สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรม แม้ว่าเจ้าจะขายนิกายกำยานโบราณของเจ้าไปเจ้าก็ยังไม่มีเงินพอที่จะซื้อมัน ! "
" แน่นอนว่าข้านั้นไม่มีสิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรม " หลี่ฉีเย่กล่าวอย่างไม่แยแส " กล่าวตามจริงสำหรับข้า สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมนั้นเป็นจำนวนที่มหาศาลมาก "
" ฮ่าฮ่า นิกายกำยานโบราณที่น่าสงสาร ข้าเกรงว่าไม่ต้องกล่าวถึงผลึกบรรพชนเที่ยงธรรม แม้แต่ผลึกราชันเทพสวรรค์เจ้าก็ยังไม่เคยเห็นมัน ! ฮึ่ม เจ้าคนน่าสงสารที่ยังไม่มีแต่ผลึกราชันเทพสวรรค์ ล้วนเป็นคนที่น่าสงสารอย่างแท้จริง ฮ่าฮ่า ! " ได้ยินคำตอบของหลี่ฉีเย่ เล้งชานเฟิงทันใดนั้นก็ไม่พลาดโอกาสที่จะหัวเราะเยาะเย้ย
คนจำนวนมากมองไปยังหลี่ฉีเย่และเล้งชานเฟิงที่กำลังทะเลาะกัน เป็นธรรมชาติที่พวกเขาไม่ต้องการจะเข้าไปขว้างและยินดีรอดูความสนุกอยู่ข้างสนาม
เห็นการเยาะเย้ยของเล้งชานเฟิง หลี่ฉีเย่นั้นอย่างยืนอย่างสงบและเอ่ย " แท้จริงแล้วข้านั้นเป็นคนน่าสงสาร แม้ว่าข้าจะไม่มีผลึกจำนวนมากในกระเป๋า นั้นไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่สามารถจ่ายได้ ซ่วงเหยียนจ่ายมันให้ข้า " กล่าวเสร็จเขาก็ออกคำสั่งกับหลี่ซ่วงเหยียน
หลี่ซ่วงเหยียนนั้นไม่ได้กล่าวสิ่งใด นางเพียงแค่หยิบตราประทับออกมาพร้อมกับเอ่ย " ท่านนักปรุงยา นี้เป็นผนึกตาประทับของนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจ "
เห็นหลี่ซ่วงเหยียนหยิบของดังกล่าวออกมา การแสดงออกของเล้งชานเฟิงนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ในฐานะศิษย์อาวุโสของนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจ เขานั้นรู้ความหมายของของสิ่งนี้เป็นอย่างดี หยกตาประทับนี้สามารถแลกกับผลึกจำนวนมากรวมถึงยาและแร่ศักดิ์สิทธิ์จากนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจ หยกตราประทับนี้ในนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจนั้นมีไม่เกินสามชิ้น หนึ่งนั้นอยู่ที่ประตูทางเชื่อม อีกหนึ่งอยู่กับผู้อาวุโสเจียง และสุดท้ายอยู่ในมือของผู้นำนิกาย !
เห็นหยกตราประทับนี้ เล้งชานเฟิงนั้นรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นหนึ่งในสามตราประทับ !
หลี่ฉีเย่นั้นมองไปยังเล้งชานเฟิงและกล่าวอย่างสบายๆ " ข้านั้นมีเงินไม่มาก ทว่านิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจนั้นใจดีเป็นอย่างมากและไม่คิดว่าข้าเป็นพวก ' ฟุ่มเฟือย ' ข้าไม่รู้ว่านายน้อยยังต้องการมรดกตระกูลชิ้นนี้หรือไม่ ? พวกเราสามารประมูลมันได้หากเจ้าต้องการ เจ้าว่าอย่างไร ? " คำกล่าวของหลี่ฉีเย่ทำให้ใบหน้าของเล้งชานเฟิงกลายเป็นแดงก่ำจนเกือบจะระเบิด !
นิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจนั้นตีค่าหลี่ฉีเย่ไว้สูงมาก หากหลี่ฉีเย่ประสบความสำเร็จในการฝังบรรพบุรุษของวิหารเทพสงคราม เช่นนั้นสำหรับนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจเรื่องเงินจึงไม่ได้สำคัญ และหากมันสำเร็จนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจจะได้รับประโยชน์อันมหาศาล นอกจากนี้วิหารเทพสงครามจะกลายเป็นผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ! ดังนั้นราชาปีศาจหลันลี่จึงใจกว้างกับการใช้จ่ายของหลี่ฉีเย่ หากเขาต้องการทองราชาหลันลี่ก็จะให้ทอง !
ทว่าหลี่ฉีเย่นั้นขี้เกียจจะรับประโยชน์จากนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจ หยกตราประทับของราชาปีศาจหลันลี่ชิ้นนี้เขามอบให้หลี่ซ่วงเหยียนเพื่อจัดการเรื่องทุกอย่าง วันนี้เล้งชานเฟิงนั้นไม่ฉลาดและกล้ามายั่วยุเขา ดังนั้นเขาจึงไม่เกรงใจที่สั่งสอน !
ใบหน้าของเล้งชานเฟิงนั้นซีดด้วยความโกรธ ตัวของเขานั้นสั่นอีกครั้งและอีกครั้ง เขาแพ้หลี่ฉีเย่อีกครั้ง ! เขาพยามอย่างมากที่จะระงับไม่ให้ตัวเองกระอักเลือดจากความเกลียด เขานั้นหันหน้าและจากไปอย่างเย็นชา ทว่าทันทีที่เห็นไปเห็นผู้คนใบหน้าของเขาก็กลายเป็นอับอายมากยิ่งขึ้น
" เขาบ้าไปแล้ว ! " เห็นคนที่กล้าจ่ายสิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมดาเพื่อซื้อชามกระเบื้องธรรมดา ผู้ฝึกตนคนอื่นอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ก่อนจะจากไปพวกเขาอดไม่ได้ที่จะคิดกับตัว สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมแลกกับชามกระเบื้อง ? นี้เป็นความบ้าระดับใดกัน !
ก่อนที่หลี่ฉีเย่จะซื้อชามกระเบื้อง เขามองมันอีกครั้งและอีกครั้ง จากนั้นเขาก็หันหน้าไปยังหญิงสาวพร้อมทั้งเอ่ย " เจ้าหยดเลือดลงไปบนชามนี้ได้หรือไม่ ? " เขากล่าวขณะที่ยืนชามกระเบื้องให้
หญิงสาวหันไปมองนักปรุงยาซูซุ่ยอย่างรวดเร็ว เขาพยักหน้าเบาๆ หญิงสาวนั้นไม่ได้กล่าวอะไรและหยดเลือดลงไปบนชามกระเบื้อง
หยดเลือดทันใดนั้นก็ไหลไปยังชามกระเบื้องอย่างช้าๆก่อนที่มันจะหายไป หลี่ฉีเย่มองมันอย่างระมัดระวังและสุดท้ายเขาก็มั่นใจว่าเขาเข้าใจถูกต้อง !
" สหายนั้นรอบรู้อย่างแท้จริง การตัดสินใจของเจ้านั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก " เห็นหลี่ฉีเย่มองอย่างระมัดระวัง นักปรุงยาซูซู่ยอดไม่ได้ที่จะกล่าวยกย่อง " มรดกสมบัติของศิษย์ข้านั้น เป็นสมบัติบรรพบุรุษของนางที่ถูกมอบให้โดยจักรพรรดิอมตะตันหลี่ ! หากศิษย์ของข้านั้นไม่ได้เดือดร้อนและต้องการเงินจำนวนมาก นางไม่ขายมรดกของตระกูล "
" สมบัติที่ถูกส่งมอบโดยจักรพรรดิอมตะตันหลี่ ! "
ได้ยินคำกล่าวนั้น หลี่ซ่วงเหยียนและเฉินเป่าเจียวกลายเป็นตกตะลึง สมบัติที่ถูกส่งมอบโดยจักรพรรดิอมตะ...นี้เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเกินไป
" ข้ารู้ " หลี่ฉีเย่ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจและเอ่ย " ข้าสามารถซื้อมันได้และข้าต้องการขวดเลือดของนางด้วย " กล่าวจบหลี่ฉีเย่ก็หันไปมองที่เด็กสาว
นักปรุงยาซูซู่ยอดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังหลี่ฉีเย่ เขานั้นรู้ว่ามันเป็นมรดกสมบัติของศิษย์เขา เขานั้นกระทั้งศึกษามันเป็นเวลานานแต่ก็ยังไม่เห็นคุณค่าของมันได้ แต่เมื่อเห็นหลี่ฉีเย่ยอมจ่ายเงินซื้อมันเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไหว
" สามารถทำได้ " สุดท้ายชายชราก็มองไปยังหญิงสาว นางนั้นพยักหน้าอย่างเงียบๆ และชายชรานั้นเห็นด้วยกับเงื่อนไขของหลี่ฉีเย่
" ซ่วงเหยียน จ่ายให้เขา " หลี่ฉีเย่มองไปยังชามกระเบื้องและกล่าวแก่หลี่ซ่วงเหยียน
หลี่ซ่วงเหยียนนั้นไม่ได้ลังเลใดๆและจ่ายมันให้แก่นักปรุงยา แน่นอนว่านี้เป็นค่าใช้จ่ายของอาจารย์นาง ราชาปีศาจหลันลี่ แม้ว่านางนั้นจะเป็นลูกหลานของนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจ ตัวของนางเองก็ไม่มีเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ !
หลังจากออกจากร้านขายยา เฉินเป่าเจียวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม " นี้คือสมบัติจักรพรรดิใช่หรือไม่ ? สมบัติของจักรพรรดิอมตะตันหลี่ ? "
" สมบัติจักรพรรดิ ? เจ้าคิดว่าเพียงสิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมสามารถซื้อสมบัติจักรพรรดิได้ ? หากเป็นสมบัติจักรพรรดิเช่นนั้นจ่ายด้วยสิบผลึกจักรรรพดิก็ยังคุ้มค่า " หลี่ฉีเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
" หากมันไม่ใช่สมบัติจักรพรรดิแล้วเช่นนี้นมันคืออะไร ? " หลี่ซ่วงเหยียนเอ่ยถาม สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมแม้ว่าจะเป็นนิกายเก้าประตูนักบุญปีศาจ มันก็ยังเป็นเงินจำนวนมาก
หลี่ฉีเย่กล่าวอย่างใจเย็น " มันเป็นเพียงชามกระเบื้อง ชามกระเบื้องที่สามัญ ! "
" เพียงแค่ชามกระเบื้อง ? " เฉินเป่าเจียวกลายเป็นตกตะลึงก่อนจะเอ่ย " เจ้า เจ้า เจ้าใช้สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมเพื่อซื้อชามกระเบื้องธรรมดา ? "
นี้คือการฟุ่มเฟือยอย่างแท้จริง อ่า !
" ทำไม ? หากข้าคิดว่ามันคุ้มค่า เช่นนั้นมันก็คุ้มค่า " หลี่ฉีเย่อมยิ้มและเอ่ย
ตอนนี้ใบหน้าของหลี่ซ่วงเหยียนก็ยังเปลี่ยนไป สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมนั้นไม่ใช่เงินจำนวนน้อย นางยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม " เป็นไปได้หรือไม่นักปรุงยาคนนั้นกำลังหลอกพวกเรา ? "
" ไม่ เขากล่าวความจริง " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวและเอ่ย " ชามกระเบื้องนี้มาจากมือของจักรพรรดิอมตะตันหลี่ ทว่ามันเป็นตอนที่เขายังเด็กไม่ใช่ตอนี้ที่เป็นจักรพรรดิอมตะ เขาให้ชามนี้แก่สหายของเขา เขาไม่ได้มอบให้หลังจากกลายเป็นจักรพรรดิอมตะ ! "
หลี่ซ่วงเหยียนและเฉินเป่าเจียวกลายเป็นงุนงง ใช้สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมเพื่อซื้อชามกระเบื่องธรรมดา...มันนับได้ว่าไม่คุ้มค่า ของชิ้นนี้แม้ว่ามันจะตกอยู่บนพื้น ก็ยังไม่มีใครเลือกที่จะเก็บมัน ตอนนี้คืนอื่นล้วนคิดว่าหลี่ฉีเย่นั้นเป็นคนบ้า !
" นี้ นี้ ชามกระเบื้องนี้มีต้นกำเนิดที่ท้าทายสวรรค์ ? " เฉินเป่าเจียวรู้สึกอย่างจะเป็นลมเล็กน้อย การใช้สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมซื้อชามกระเบื้อง...นี้ล้วนทำให้ผู้คนกลายเป็นบ้า !
" ต้นกำเนิดที่ท้าทายสวรรค์ หากจะกล่าวตามจริง เมื่อจักรพรรดิอมตะตันหลี่ยังเป็นเพียงเด็กน้อย..นี้ไม่ได้กล่าวเกินจริง เขานั้นเป็นเด็กที่น่าสงสารและไม่แม้แต่จะมีข้าวกิน วันหนึ่งเขาและพี่ชายรวมสาบานของเขา ในยังเยาว์วัยตัดสินใจจะร่วมเดินทาง เขานั้นไม่มีสิ่งใดที่จะให้กับพี่ชายร่วมสาบาน ดังนั้นเขาจึงให้ชามกระเบื้องนี้แก่พี่ชายของเขา ! ต่อมาจักรพรรดิอมตะตันหลี่นั้นเข้าร่วมกับนิกายตะวันอมตะ จากนั้นเขาก็ผงาดขึ้นมาบนโลกและกลายเป็นจักรพรรดิอมตะในรุ่นของเขา "
หลี่ฉีเย่กล่าวอย่างช้าๆราวกับพยามจะนึกย้อนเรื่องเก่า
ได้ยินตำนานที่เก่าแก่เช่นนี้ ไม่เพียงเฉินเป่าเจียวและหลี่ซ่วงเหยียน แม้แต่ชิกั่นดางก็ยังตกตะลึงขณะที่เดินตามพวกเขา นี้เป็นครั้งแรกของจักรพรรดิอมตะตันหลี่ที่ปกคลุมทั้งเก้าโลกและสิบแผ่นดิน เขานั้นไม่ได้เป็นเพียงจักรพรรดิอมตะ แต่ยังจักรพรรดิที่มีกายาอมตะ ! ตลอดชีวิตของเขานั้นกวาดผ่านยุคแล้วยุคเล่า ทว่าเบื้องหลังของจักรพรรดิอมตะตันหลี่ ในโลกนี้จะมีซักกี่คนที่รู้เรื่องของเขา ?
อดีตของจักรพรรดิอมตะตันหลี่นั้นไม่ได้ส่งผ่านมาหลายรุ่นและเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งโลกนั้นจะรู้ ทว่าเวลานี้หลี่ฉีเย่อีกครั้งและอีกครั้ง เขากล่าวทุกอย่างราวกับอ่านฝ่ามือของเขาเองได้อย่างไร ?
หลี่ฉีเย่นั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้เกี่ยวกับอดีตของจักรพรรดิอมตะตันหลี่ ปีนั้นเขาเป็นคนที่นำเด็กน้อยนั้นไปยังนิกายตะวันอมตะ ความจริงเขานั้นอยากจะให้จักรพรรดิอมตะตันหลี่ได้รับการอบรมที่ดี ทว่าน่าเสียดายเขานั้นเป็นหนี้นิกายตะวันอมตะเขาจึงต้องส่งมอบเมล็ดพันธ์ต้นนี้ไป !
" ชามกระเบื้องนี้ยังมีประโยชน์อื่นอีกหรือไม่ ? " หลี่ซ่วงเหยียนนั้นยังไม่ยอมแพ้และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอีกครั้ง นี้คือสิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรม อ่า ! แม้ว่ามันจะไม่ใช่เงินของนาง มันก็ยังเป็นเงินของนิกาย นางนั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดภายใน ใช้ผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมซื้อชามกระเบื้อง ฟุ่ยเฟือยเกินไปจนนางเกือบจะกระอักเลือด !
" เพียงแค่ชามกระเบื้่องธรรมดา หากเจ้านั้นคิดว่ามันเป็นสมบัติหายาก เจ้าคิดผิดแล้ว มันไม่มีผลต่อการบ่มเพาะใดๆ " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวพร้อมกับอมยิ้ม
" เจ้าบ้าไปแล้ว ! " เฉินเป่าเจียวอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา " สิบผลึกบรรพชนเที่ยงธรรมซื้อชามกระเบื้อง..ได้ยินเรื่องนี้ทุกคนต้องกลายเป็นบ้า นี้มันยิ่งกว่าทิ้งเงินลงแม้น้ำเสียอีก ! "
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
#หืม ระดับพี่ฉีจะซื้อของธรรมดา ? อย่ามาหลอกเขาเล้ยยย >"<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น