ทว่าหนานเตียนฮ่าวนั้นไม่ทราบถึงต้นกำเนิดของกบตัวนี้ เขาไม่เข้าใจถึงวิธีการที่จะจับมัน เขาเพียงแค่คิดว่าด้วยระดับหลอมวิญญาณของตนก็เพียงพอแล้วที่จะจับมัน
" โอ๊บบ "
ทว่าเมื่อเขายืนมือเข้าไป กับตัวนั้นก็ตื่นและส่งเสียงร้องออกมา ทันใดนั้นกบก็กลายเป็นแสงและหายวับไปในพริบตา เหตุการณ์ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเร็วอย่างมากจนทุกคนสับสน
" ไม่ ! "
หลี่ฉีเย่คนที่กำลังลุกขึ้นมาเมื่อเห็นฉากนี้เขาก็กลายเป็นโกรธและตกตะลึง เขานั้นทุ่มเทความพยามอย่างมากแต่มันกลับไร้ผลเพราะเจ้าสารเลวพวกนี้ !
" โอ้ว ดูเหมือนเจ้าจะยังไม่ตายนี้ดียิ่ง "
เนื่องจากมันบินหายไปหนานเตียนฮ่าวดึงมืออกมา เขามองไปที่หลี่ฉีเย่ด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยและเอ่ย
" ดีข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ากระดูกของเจ้าจะหนาสักแค่ไหน สั่งสอนเขาจนกว่าจะยืนไม่ได้แล้วค่อยหยุด "
หนานเตีนรฮ่าวหัวเราะเสียงเย็นก่อนจะสั่งกับศิษย์ของเขา เหล่าศิษย์นับพันล้วนหัวเราะเสียงดังก่อนจะเข้าไปล้อมหลี่ฉีเย่
" เขายังมีชีวิตรอดหลังจากปะทะกับฝ่ามือจากระดับชะตาลี้ลับ ? "
เมื่อเห็นหลี่ฉีเย่ยังมีชีวิตอยู่เหล่าผู้ฝึกตนที่ดูอยู่ล้วนประหลาดใจ หนึ่งในนั้นเอ่ย
" ไร้เดียงสายิ่ง เขามีโอกาสที่จะหนีแต่กลับไม่ทำ นี้ไม่ใช่ว่าเขาเลือกที่จะตาย ? "
ตอนนั้นเองเหล่าศิษย์จากอาณาจักรใต้สวรรค์ที่กำลังปิดล้อมอยู่ ต่างหัวเราะและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
" ปีศาจน้อยดูเหมือนผิวของเจ้าจะหนายิ่ง วันนี้พวกเราจะสอนการทรมานให้เจ้าเอง แม้ว่าหนังของเจ้าจะทำมาจากเหล็กเจ้าก็ต้องกรีดร้องและคุกเข่า ! "
มาถึงจุดนี้การแสดงออกของหลี่ฉีเย่นั้นทำให้ผู้คนโดยรอบรู้สึกหนาวสั่น ราวกับมีพายุหิมะพัดรอบตัวเขา เขากล่าวอย่างเย็นชา
" สารเลว พวกเจ้าสมควรตาย ! "
หากต้องการจะจับกบนั้นอีกในอนาคตนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพียงความคิดนี้ก็ทำให้หลี่ฉีเย่โกรธจนตัวสั่น
" ปากดี ! ตัดแขนและขาของเขาซะ จากนั้นก็ลากเขามาให้ข้า ! "
การแสดงออกของหนานเตียนฮ่าวเปลี่ยนไปพร้อมทั้งกล่าวอย่างโหดเหี้ยม
" ปีศาจน้อยเจ้าควรจะโทษตัวเองที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ หากมีภพหน้าอย่าลืมจำว่าเจ้าไม่ควรจะมาเป็นศัตรูกับอาณาจักรใต้สวรรค์ของพวกเรา ! "
เหล่าศิษย์จากอาณาจักรใต้สวรรค์ทันใดนั้นก็คำรามและพุ่งเข้าใส่ พวกเขาจู่โจมใส่หลี่ฉีเย่ด้วยสมบัติระดับชีวิตของพวกเขา
" ไส ! หัว ! ไป ! "
เมื่อความโกรธครอบงำ หลี่ฉีเย่คำรามเสียงดังลั่น ร่างกายของเขาพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ศิษย์คนหนึ่งเผยรอยยิ้มชั่วร้าย ใช้ร่างกายรับสมบัติระดับชีวิต ? นี้เพียงพวกแสวงหาความตาย !
" ตูม ! "
สมบัติระดับชีวิตแตกเป็นชิ้นๆ
" ตูม ! "
ปรากฏเป็นฝนเลือดตกลงมาจากท้องฟ้า ศิษย์คนนั้นราวกับถูกทุบด้วยฆ้อนขนาดใหญ่ ร่างกายของเขาแตกละเอียด เศษเนื้อและกระดูกร่วงลงมาพร้อมกับหยดเลือด
" ไม่..."
ศิษย์คนอื่นๆกลายเป็นหวาดกลัว พวกเขารวบรวมความกล้าทั้งหมดก่อนจะคำรามพร้อมกันและระดมฟาดสมบัติระดับชีวิตใส่หลี่ฉีเย่
" ปัง ! ปัง ! ปัง ! "
ทว่าตอนนี้หลี๋ฉีเย่นั้นเต็มไปด้วยความโกรธ เขานั้นไม่ได้ใช่ทักษะใดเขาใช้เพียงพลังของร่างกายล้วนๆที่บดขยี้ทุกสิ่ง ด้านบนของเขากลายปรากฏเป็นปักษา ด้านล่างปรากฏเป็นรูปแบบสวรรค์ทันใดนั้นความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก กายาอเวจีอมตะเปลี่ยนร่างกายของเขาเป็นอาวุธที่น่ากลัวที่สุดด้วยน้ำหนักที่มากกว่าหนึ่งล้านจิน ร่างกายของเขาตอนนี้น่ากลัวมากกว่ายามมังกรโกรธหลายเท่า !
" อ้ากก "
สุดท้าย ศิษย์คนสุดท้ายกรีดร้องอย่างน่าสงสารทว่าขณะที่เขากรีบร้องหลี่ฉีเย่จับหัวของเขาและบีบมันทันที กลิ่นคาวเลือด ชิ้นส่วนของสมองปลิวว่อนขึ้นไปร่วมกันในอากาศและตกลงมา
สมบัติระดับชีวิตหรือร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอะไรเมื่อต้องเผชิญกับความแข็งแกร่งของกายาอเวจีอมตะพวกมันทำได้เพียงแตกละเอียด น้ำหนักนับล้านจินราวกับภูเขาขนาดยักษ์ สมบัติและร่างกายล้วนไม่สามารถทนต่อน้ำหนักขนาดนี้ได้
ก่อนหน้านี้ กระทั้งวานรนภาก็ยังไม่สามารถเอาชนะกายาอเวจีอมตะของหลี่ฉีเย่ได้ ไม่ต้องกล่าวถึงศิษย์จากอาณาจักรใต้สวรรค์
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง ไม่มีทักษะหรือรูปแบบใด ไม่มีพลังเต๋า ไม่มีคัมภีร์ มันเป็นเพียงแค่พลังของร่างกายและกล้ามเนื้อ มันราวกับทำให้เขาเป็นอมตะและบดขยี้ทุกคนที่ขว้างเส้นทางของเขาได้ !
" เจ้า..มารับความตาย ! "
เมื่อมาถึงตอนนี้ หลี่ฉีเย่จ้องไปยังหนานเตียนฮ่าวดวงตาของเขานั้นกลายเป็นน่ากลัวอย่างแท้จริง นี้มันราวสายตาของราชา เขาจ้องหนานเตียนฮ่าวขณะที่ก้าวไปแต่ละก้าว ทุกก้าวแต่ละก้าวทำให้แผ่นดินล้วนแยกออก ด้วยกายาอเวจีอมตะแผ่นดินใต้ฝ่าเท้าก็ราวกับแผ่นกระดาษ
" ฆ่าเขา ! "
กลายเป็นเป้าหมายสายตาของหลี่ฉีเย่ หนานเตียนฮ่าวรู้สึกหนาวตั้งแต่กระดูกสันหลังจนถึงหัวใจ
ระดับชะตาลี้ลับเริ่มเคลื่อนไหว พวกคำโห่ร้องก่อนจะฟาดอาวุธของระดับชะตาลี้ลับใส่หลี่ฉีเย่
หลี่ฉีเย่คำรามเสียงดัง
" หลีกไป ! "
เขาวิ่งไปด้านหน้าเพื่อปะทะกับอาวุธทั้งหมด
" ปัง ! ปัง ! "
อาวุธทั้งสองของระดับชะตาลี้ลับล้วนไม่สามารถหยุดหลี่ฉีเย่ได้ พวกเขานั้นทรงพลังและสามารถสร้างรอยแผลให้หลี่ฉีเย่ได้ แต่ด้วยพลังของกายาอเวจีอมตะการจะฆ่าหลี่ฉีเย่ล้วนไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะทำได้
ภายใต้การปะทะกันครั้งที่สอง สมบัติระดับชีวิตนั้นเริ่มแตกร้าว นี้ทำให้หัวใจของระดับชะตาลี้ลับทั้งสองเจ็บปวดสิ่งเหล่านี้พวกเขาตั้งใช้เวลานานมากกว่าจะได้พวกมันมา
" ฆ่า ! "
เมื่อได้รับแรงกดดันจากหลี่ฉีเย่ หนานเตียนฮ่าวคำรามเสียงดังพร้อมทั้งเรียกใช้สมบัติระดับชีวิตของเขา เมื่อมันออกมามันราวเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่พร้อมทั้งด้วยกลิ่นอายทรงพลังขณะเข้าปะทะกับหลี่ฉีเย่
" ปัง ! "
ช่วงเวลาที่ปะทะกับร่างกายของหลี่ฉีเย่ มีระเบิดเสียงดังเกิดขึ้น สมบัติระดับชีวิตนั้นแตกจนไม่เหลือชิ้นดี ขณะที่หลี่ฉีเย่วิ่งเข้าหาหนานเตียนฮ่าวโดยไม่มีใครหยุดได้
การแสดงออกของหนานเตียนฮ่าวกลายเป็นมืดมน จากนั้นเขาก็หันไปเรียกกระจกชีวิตออกมาเพื่อหวังจะหยุดหลี่ฉีเย่ มีเสียง ' ปัง ! ' เกิดขึ้นกระจกชีวิตถูกทำลายและหนานเตียนฮ่าวลอยกระเด็นไปด้านหลังพร้อมกับกระอักเลือด เสียงกระดูกที่ถูกบดขยี้ดังออกมาจนคนรอบข้างได้ยิน หากกระจกชีวิตไม่ขว้างหลี่ฉีเย่ไว้ เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
" นายยน้อยหนีไป.."
ระดับชะตาลี้ลับหน้าซีดขาว พวกเขาพลิกฝ่ามือและเรียกสมบัติออกมา เมื่อสมบัติของทั้งสองปรากฏพลังของระดับองค์รักษ์เทพสวรรค์ก็กระจายไปทั่วอากาศ กลิ่นอายทรงพลังของมันสามารถทำลายภูเขาและแม่น้ำได้ในพริบตา โลกเริ่มสั่นไหวภายใต้แรงกดดันครั้งนี้
" สมบัติองค์เทพสวรรค์ระดับชีวิต.."
เมื่อเห็นระดับชะตาลี้ลับเรียกสมบัติเหล่านี้ออกมาการแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก ด้วยสมบัติองครักษ์เทพสวรรค์ระดับชีวิตพวกเขาสามารถฆ่าระดับตัดสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย !
" ตูม ! "
ร่างกายของหลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็พุ่งเข้าใส่กลิ่นอายสวรรค์และความกดดันจากสมบัติทั้งสอง ทันใดนั้นเองสมบัติเหล่าก็เกิดรอยร้าวราวกับว่าพวกมันจะแตกออกมาได้ทุกขณะ
ไม่เพียงระดับชะตาลี้ลับ กระทั้งผู้คนที่อยู่โดยรอบก็ยังตกตะลึง นี้คือกายาชนิดใดกัน ? มันกระทั้งสามารถทำลายสมบัติองครักษ์เทพสวรรค์ระดับชีวิตได้ ! นี้มันน่ากลัวเกินไป !
สำหรับหนานเตียนฮ่าวเมื่อเขาเห็นฉากดังกล่าวใบหน้าของเขาก็กลายเป็นซีดขาวก่อนจะหันหลังและเริ่มวิ่ง !
" ทำลายเขา ! "
ระดับชะตาลี้ลับทั้งสองกลายเป็นหวาดกลัวและหวาดกลัวยิ่งขึ้น ทั้งสองร่วมสมบัติของพวกเขาเข้าด้วยกันจนมันกลายเป็นหม้อขนาดยักษ์และจับหลี่ฉีเย่ จากนั้นเปลวไฟก็เริ่มปรากฏและพยามที่จะสกัดกลั่นหลี่ฉีเย่ !
เห็นหนานเตียนฮ่าวกำลังจะหลบ หลี่ฉีเย่จะปล่อยเขาไปอย่างไร ? หลี่ฉีเย่คำรามเสียงดัง
" ฆ่า ! "
หลังจากตะโกนเสร็จเขาก็เรียกใช้ดาบคู่ไร้ลักษณ์
" กึก ! กึก ! "
ดาบคู่ไร้ลักษณ์เมื่อมันปรากฏตัวมันก็สั้นเป็นอย่างมากราวกับจะรับรู้ความโกรธของหลี่ฉีเย่ พริบตานั้นกลิ่นอายและจิตวิญญาณของจักรพรรดิก็ปรากฏตัวออกมาจกาดาบทั้งสอง !
" พลังของจักรพรรดิ..."
เมื่อกลิ่นอายจักรพรรดิออกมาจากดาบ ระดับชะตาลี้ลับก็กลายเป็นหวาดกลัว พวกเขานั้นอยู่ใกล้กับดาบคู่ไร้ลักษณ์เป็นอย่างมากจนรับรู้ได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา
" ฉึก ! "
ด้วยพลังของจักรพรรดิที่ปรากฏออกมา แม้จะปรากฏมาเพียงพริบตาแต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะสะบันทำลายทุกสิ่ง แม้แต่สมบัติองครักษ์เทพสวรรค์ระดับชีวิตก็ยังขาดครึ่ง !
หัวของระดับชะตาลี้ลับทั้งลอยขึ้นไปยังอากาศ ขณะที่ร่างของพวกเขานั้นตกลงมาบนพื้นพร้อมกับเลือดและเศษของสมบัติของพวกเขา
แม้ว่ากลิ่นอายของจักรพรรดิจะปรากฏออกมาจากาดาบคู่เพียงพริบตา แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้จิตใจของผู้ที่ชมอยู่สั่นกลัวและยอมศิโรราบราวกับจิตวิญญาณของพวกเขาถูกตัดด้วยดาบ ร่างกายของพวกเขาหนาวเย็นและกลายเป็นอ่อนแอ !
" เคร้ง ! "
เวลานี้หลี่ฉีเย่ลอยอยู่บนอากาศพร้อมด้วยดาบคู่ไร้ลักษณ์ในมือ หนานเตียนฮ่าวคนที่กำลังหนีกลายเป็นตกตะลึง ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเร็วมากจนเขาแทบจะยังไม่ได้เคลื่อนไหว
" เปิด.."
หนานเตียนฮ่าวนั้นกรีดร้องด้วยความกลัว จากนั้นเขาก็เรียกเกราะศักดิ์สิทธิ์ปกป้องร่างกาย ทว่าหลังจากเสียง ' เคร้ง ' เกราะศักดิ์สิทธิ์ก็กลายเป็นของไร้ค่า ด้วยระดับหลอมวิญญาณของหนานเตียนฮ่าว เขานั้นล้วนไม่สามารถป้องกันดาบคู่ไร้ลักษณ์ที่แบกกลิ่นอายของจักรพรรดิได้
ร่างกายของเขานั้นถูกปักไว้ที่พื้น ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ เลือดอาบไปทั่วร่างของเขาและอาบทั่วพื้นดิน ตอนนี้เขาเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย !
ตอนนี้ทุกคนกลายเป็นตัวสั่น นี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด หลี่ซ่วงเหยียนและหนุนเฟินที่วิ่งมาจากระยะไกลกลายเป็นตกตะลึง พวกเขายังไม่กล้าเครื่องไหว ตอนนี้ความโกรธของหลี่ฉีเย่นั้นสูงเทียมฟ้า เขานั้นต้องการฆ่ากลุ่มของหนานเตียนฮ่าวทั้งหมด ใครกันจะกล้าเข้าไปยุ่งกับเขาตอนนี้ ?
หลี่ฉีเย่ราวกับเทพแห่งความตายที่แบกความโกรธเกี้ยว นี้ทำให้คนอื่นอดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว ไม่มีใครกล้าที่จะมองไปยังเขาเพราะว่าไม่มีใครเชื่อว่ากลิ่นอายของเทพแห่งความตายนี้จะมาจากเด็กอายุสิบห้า !
หลี่ฉีเย่เดินมาใกล้หนานเตียนฮ่าวและมองเขาอย่างเย็นชา สุดท้ายความโกรธของเขาก็ค่อยๆลดลง
" เลือกที่จะเป็นศัตรูกับข้า ข้ายังสามารถไว้ชีวิตเจ้าได้ ทว่าทำลายแผนการของข้า..แม้ว่าจะเป็นลูกของจักรพรรดิอมตะ ข้าก็จะฆ่าพวกมันทิ้งอย่างไร้เมตตา ! "
หลี่ฉีเย่จ้องไปหนานเตียนฮ่าวและเอ่ยช้าๆ
" จะ..เจ้า..หะ.หากเจ้ากล้าฆ่าข้า นิกายใต้สวรรค์ของข้าจะทำลายเจ้าเก้าชั่วโคตรพร้อมทั้งบดขยี้นิกายกำยานโบราณของเจ้า.."
หนานเตียนฮ่าวกล่าวอย่างยากลำบากขณะที่นอนอยู่บนพื้น
" แกร๊ก ! "
ก่อนทีหนานเตียนฮ่าวจะพูดจบ หลี่ฉีเย่ใช้มือข้างหนึ่งของเขาจับกะโหลกพร้อมทั้งดึงกระดูกสันเขาของหนานเตียนฮ่าวออกมา ขณะที่สายตาของเขาเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
หลี่ฉีเย่โยนหัวของหนานเตียนฮ่าวไปที่พื้นก่อนจะเหยียบ
" อาณาจักรใต้สวรรค์ของเจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะขู่ข้า ! "
เห็นฉากนี้ทุกคนกลายเป็นเงียบและกลั่นหายใจ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะส่งเสียงหายใจออกมา จากระยะไกลผู้ฝึกตนจำนวนมากหวาดกลัวออกมาจากก้นบึ้ง หนึ่งไหลซึมออกมาทั่วหลังของพวกเขา..
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
#อยากเห็นพี่ฉีเย่อาละวาดวันนี้ได้เห็นแวววว เอิ่มพี่เล่นวิ่งชนทุกอย่างแบบนี้พี่ไปคนเหล็กสามเรอะ = = "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น